หุ้นปิดครึ่งวันเช้าร่วง 15 จุด นักลงทุนวิตก ศก. สหรัฐฯ-จีน อาจชะลอตัว ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยกดดัน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 ก.พ.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,277.47 จุด ลดลง 15.34 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.19% มูลค่าการซื้อขาย 12,034.74 ล้านบาท โดยรับผลกระทบจากปัจจัยนอกประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่เอื้อในการลงทุน
นักวิเคราะห์ยอมรับว่าดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 1% ตามทิศทางตลาดในต่างประเทศ จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หลังจากประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตลดลงมากกว่าคาด และการปรับลดวงเงิน QE ของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และจะมีความกังวลมากขึ้น โดยที่ยังมองไม่เห็นว่าการชุมนุมจะยุติลงเมื่อใด โดยการชุมนุมยังมีต่อเนื่อง และมีความรุนแรงมากขึ้น แม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะยกระดับการชุมนุมเป็นการไปปิดล้อมบ้านพักของนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญของรัฐบาล
ขณะที่การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต รวมกว่า 200 คน ทำให้ไม่สามารถเปิดสภาได้ ส่งผลให้ประเด็นการเมืองยังคงกดดันตลาดหุ้นต่อไปอีกระยะ
นอกจากนี้ ยังคงแนะนำให้จับตา (1) แผนการยกระดับการชุมนุมต่อเนื่อง หลังดำเนินการปิดกรุงเทพฯ มาเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ (2) ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งล่าสุด ธปท. ปรับลด GDP ในปี ’57 เป็น 3.0% (3) ป.ป.ช. มีมติไต่สวนนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งยังไม่มีกำหนดที่แน่ชัดว่าจะชี้มูลความผิดได้เมื่อไร
