แบงก์กสิกรไทย รับสินเชื่อเอสเอ็มอีฝืด ผลเศรษฐกิจชะลอต่ำกว่าคาด ลูกค้าคืนเงินกู้ ปีนี้ต่ำกว่าเป้า 5 พันล้าน แต่รายได้ยังสูงกว่าที่ตั้งไว้ ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าสินเชื่อโต 9-11% ห่วงกลุ่มเร่งขยายลงทุน ค้าปลีกฟุบ
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจเอสเอ็มอีในปี 2557 ในส่วนของธนาคารนั้นจะมีความท้าทายมากกว่าในปีนี้ โดยได้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 571,983 ล้่านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9-11% รายได้รวมอยู่ที่ 39,678 ล้านบาท เติบโต 13% ซึ่งการตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อในอัตราที่่ต่ำกว่าปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง และอาจจะเติบโตได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ และตั้งเป้าลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลงเหลือ 2.55% จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3% รวมถึงเพิ่มดัชนีความพึงพอใจในบริการจาก 75% เป็น 77%
ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะในกลุ่มที่ขอสินเชื่อเพื่อลงทุนขยายธุรกิจไว้ แต่ไม่สามารถขายสินค้า และบริการได้ตามที่คาดไว้ หรือกลุ่มค้าปลีกที่อาจจะสต๊อกสินค้าไว้มาก แต่จำหน่ายได้ไม่มากนัก ก็อาจจะทำให้ขาดสภาพคล่องได้ ซึ่้งธนาคารก็ได้ดูแล และมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่ออยู่เช่นเดิม
ส่วนความท้าทายในปีหน้า นอกจากธนาคารจะต้องมีผลตอบแทนจากกลุ่มลูกค้าเก่าเพิ่มขึ้นแล้ว ก็จะมีกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทดแทนการชะลอการลงทุนของกลุ่มลูกค้าเก่า เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของสินเชื่อ และรายได้ให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งในด้านกลยุทธ์แล้ว ก็จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ เพราะอาจจะติดขัดในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ รวมถึงการแนะนำลูกค้าใหม่จากกลุ่มลูกค้าเก่า ในขณะเดียวกัน ก็ยังเน้นดูแลลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่องด้วย
“ในปีหน้าถือเป็นเรื่องที่ท้าทายกว่าปีนี้ มีความเป็นไปได้ที่ยอดต่างๆ จะไม่เป็นไปตามเป้ามากกว่าปีนี้ เพราะความต้องการสินเชื่อที่ลดลงทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ แต่ในปีนี้เราค่อนข้างโชคดี แม้เศรษฐกิจจะชะลอลงไป แต่ช่วง 9 เดือนแรก รายได้ก็ทำได้ตามเป้าแล้ว ส่วนสินเชื่อก็ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เพราะธนาคารเองก็มีความระมัดระวัง ซึ่งปริมาณปล่อยสินเชื่อทำได้ง่าย แต่เราต้องเน้นที่คุณภาพด้วย”
รายได้ปี 56 เกินเป้า
สำหรับในปี 56 ธนาคารมียอดสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 516,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 10% แต่ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 5,000 ล้านบาท รายได้รวมอยู่ที่ 35,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 13% จากเป้าหมาย 12% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 3.05% ลดลงจากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 3.20%
นายพัชร กล่าวอีกว่า ในปีนี้สิ่งที่เราเห็นก็คือ มีลูกค้ามาคืนเงินกู้มากขึ้น ก็คือจากที่คาดว่าจะขยายการลงทุนหรืออะไร ก็ไม่ทำ เพราะเศรษฐกิจชะลอกว่าที่คาดไว้ เมื่อไม่ได้ใช้เงินก็เอามาคืนธนาคาร เป็นเรื่องของความต้องการสินเชื่อที่ลดลง อย่างเงินกู้ OD จากเดิมมีการเบิกใช้ 58% ตอนนี้ก็มีแค่ 56% เป็นต้น ดังนั้น ในปีหน้าก็ต้องหาลูกใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยกัน ส่วนลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยภาพรวมก็ยังมีคุณภาพดี กลุ่มการค้าต่างประเทศก็ยังไม่มีปัญหา แต่ยังจับตาดูอยู่ก็เป็นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์