LDC Dental ตั้งแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมเดินเครื่องเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อนำเงินระดมทุนใช้ในการขยายสาขาตั้งเป้าหมาย 3 ปี ขยายสาขาอีก 1 เท่าตัว ด้าน “สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม” คาดยื่นไฟลิ่งให้ ก.ล.ต. พิจารณาได้ประมาณ มี.ค.-เม.ย. ปีหน้า หวังเข้าซื้อขายให้ทันในปี 2557
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (LDC) ผู้ให้บริการศูนย์ทันตกรรม ทันตแพทย์เฉพาะทาง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัทแอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในวันนี้ (3 ธ.ค.) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเดือนมกราคม 2557 คาดว่าจะสามารถยื่นคำขอเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในลำดับถัดไป
สำหรับบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด นั้นเริ่มก่อตั้งจากคลินิกเล็กๆเมื่อปี พ.ศ.2535 ในาม “ลาดพร้าวทันตคลินิก” ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “LDC Dental” ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 48 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจในรูปแบบสาขาของศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งขณะนี้ (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556) มีสาขาทั้งหมด 20 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล บริษัทฯ มีแผนขยายสาขา LDC Dental ภายใน 3 ปีข้างหน้า (2557-2559) อีก 1 เท่า หรือเป็น 40 สาขา โดยการลงทุนประมาณ 10 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งพื้นที่การขยายสาขาต้องพิจารณาทำเลที่เหมาะสมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จํากัด เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด ว่า ขณะนี้บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด อยู่ระหว่างกระบวนการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 2557 โดย LDC Dental จะถือเป็นผู้ให้บริการทันตกรรมรายแรกที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 20 ปี มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญ และสถาบันฝึกอบรม LDC เพื่อฝึกอบรมผู้ช่วยทันตแพทย์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของบริษัทฯ
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai คาดว่าเป็นปีหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ด้วย เบื้องต้นหลังแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า แล้วรองบการเงินของปี 2556 ออกมาก็สามารถยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. ได้ทันที เพราะเราเตรียมความพร้อมกันมาระยะหนึ่งแล้ว” นายสมภพกล่าว
ทั้งนี้ เงินระดมทุนจากการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปนั้น จะนำไปใช้ในการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่บริการในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งนำมาใช้ในการปรับปรุงเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยให้มากขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ รวมทั้งสร้างตราสินค้าเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการทางด้านทันตกรรม ผลประกอบการบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด งวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2556) บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12% และมีกำไรสุทธิประมาณ 10 ล้านบาท
ประวัติความเป็นมา บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด เริ่มก่อตั้งในปี 2535 ภายใต้ชื่อ ลาดพร้าวทันตคลินิก โดยทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ ซึ่งจบการศึกษาด้านทันตแพทยศาสตร์ และมีประสบการณ์ในสาขาด้านนี้ หลังจากดำเนินธุรกิจมาช่วงระยะหนึ่ง ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ ก็ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างระบบมาตรฐานของธุรกิจทันตกรรม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กร จึงได้มีการพัฒนาเป็นศูนย์ทันตกรรม ในนาม บริษัท ศูนย์ทันตกรรมลาดพร้าว จำกัด และจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2543 ด้วยทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท ต่อมา ในปี 2549ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด โดยวางตำแหน่งธุรกิจในรูปแบบสาขาของศูนย์ทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทาง ในนาม LDC Dental ซึ่งมุ่งเน้นให้บริการโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วยการขยายสาขาเรื่อยมา เพื่อให้สามารถบริการได้ครอบคลุมเขตพื้นที่ชุมชนของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานความสะอาดแบบ “ปลอดเชื้อ” และกำหนดมาตรฐานแนวทางป้องกันการติดเชื้อทางทันตกรรม รวมถึงระบบการเฝ้าระวังการติดเชื้อ การตรวจติดตามคุณภาพภายใน เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการที่คุ้มค่า ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ที่ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ ส่งผลให้ LDC Dentalได้รับการรับรองมาตรฐาน HA ขั้นที่ 1 (Hospital Accreditation) จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) The Healthcare Accreditation Institute (Public Organization) เป็นศูนย์ทันตกรรมแห่งแรกในประเทศไทย เป็นการยกระดับมาตรฐานบริการ และมีแผนก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจการให้บริการทางด้านทันตกรรม ภายใต้วิสัยทัศน์ที่วางไว้ คือ “เราจะเป็นมืออาชีพด้านบริการทันตกรรมและมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย”
