“ทีทีเอ” ประกาศระดมทุนล็อตใหม่อีก 4,173 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จครั้งแรกเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หวังนำเงินไปลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุน เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในเวลาที่ตลาดกำลังเปิดกว้าง ทั้งในส่วนของธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองของโทรีเซน ชิปปิ้ง และขยายธุรกิจอื่น
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อระดมเงินทุนประมาณ 4,173 ล้านบาท สำหรับลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุน เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในเวลาที่ตลาดกำลังเปิดกว้าง ทั้งในส่วนของธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองของโทรีเซน ชิปปิ้ง ธุรกิจการให้บริการนอกชายฝั่งของ บมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน
โดยผู้ถือหุ้นจะมีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในสัดส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นเพิ่มทุนที่จะออกใหม่ในราคา 14 บาท นอกจากนั้น TTA ยังจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้น (วอร์แรนต์ TTA-W4) ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วน 3 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 18.50 บาท ภายในระยะเวลา 3 ปี (36 เดือน) นับจากวันออกวอร์แรนต์ ผู้ถือหุ้นสามารถที่จะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินสิทธิได้ในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่า 50% ของหุ้นเดิมที่ตนเองมีอยู่ ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 และการจัดสรรหุ้นที่จองเกินสิทธิจะเป็นไปตามสัดส่วนหุ้นเดิมที่ตนเองมีอยู่
สำหรับราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 14 บาท เป็นราคาที่ให้ส่วนลดจากราคาตลาดประมาณ 16.7% ซึ่งเป็นการคำนวณจากค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นของ TTA ในช่วง 15 วันสุดท้ายก่อนประกาศเพิ่มทุน ขณะที่ราคาแปลงสิทธิ์วอร์แรนต์ TTA-W4 ที่ 18.5 บาท คือ ราคาพรีเมียมที่ประมาณ 10% ของค่าเฉลี่ยราคาหุ้นของ TTA ในช่วง 15 วันสุดท้าย
ทั้งนี้ TTA จะเสนอแผนเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติในการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2557 ทั้งนี้ ระยะเวลาในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2557
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA กล่าวว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท จะนำมาใช้เพื่อคว้าโอกาสในการลงทุนระยะสั้น และระยะกลาง ในขณะที่เงินอีกส่วนประมาณ 1,838 ล้านบาท คาดว่าจะน่าจะได้รับมาภายในปี 2560 จากการแปลงสิทธิ TTA-W4 จะถูกนำไปใช้เพื่อชำระหนี้ และเพื่อโอกาสการลงทุนอื่นๆ ในอนาคต
“ผู้บริหารประเมินว่า นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะขยายกองเรือของโทรีเซนชิปปิ้ง เพื่อให้กองเรือของเราสามารถตอบสนองต่อการฟื้นตัวในระยะสั้นถึงระยะกลาง ในขณะเดียวกัน เราก็เห็นแรงกระตุ้นที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในเมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากกิจกรรมสำรวจ และผลิตยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดหลักๆ ของเรา และสุดท้ายคือ การลงทุนในเวียดนาม ตั้งแต่ในส่วนของท่าเรือน้ำลึกที่นิคมอุตสาหกรรมพูห์มี และบริษัทปุ๋ย และคลังสินค้า ต่างก็มีผลงานที่ดีอย่างมาก ซึ่งช่วยเปิดประตูสำหรับการลงทุนอื่นๆ อีกต่อไป”
