“บิวตี้ คอมมูนิตี้” ดันยอดขายโค้งสุดท้ายกระฉูด เตรียมแผนอัดโปรโมชันไตรมาส 4 ออกชุดของขวัญผลิตภัณฑ์ BEAUTY BUFFET BEUATY COTTAGE BEAUTY MARKET และ MADE IN NATURE ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน รายได้รวม 728.06 ล้านบาท กำไรพุ่ง 157.63 ล้านบาท เติบโตกว่า 28%
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ รายได้ของบริษัทน่าจะมีการเติบโตเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งบริษัทมีแผนจัดโปรโมชัน และออกผลิตภัณฑ์ชุดของขวัญของทุกแบรนด์เพื่อกระตุ้นยอดขาย รองรับความต้องการของลูกค้า คาดว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ
นอกจากนี้ BEAUTY ยังมีแผนเปิดสาขาของแบรนด์ต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยภายในเดือน พ.ย. จะทำการเปิด BEAUTY MARKET สาขา 3 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และในเดือน ธ.ค.จะทำการเปิดสาขา Flagship Store ที่มีความโดดเด่น และขนาดใหญ่ที่สุดของ BEAUTY COTTAGE ที่ Central World ซึ่งในปีนี้จะมีสาขารวม 50 สาขา จากปัจจุบัน 47 สาขา ขณะที่ BEAUTY BUFFET จะมีสาขารวม 180 สาขา จากปัจจุบัน 172 สาขา
ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศจะมีการขยายสาขา BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ในต่างประเทศเพิ่มเติมรวมเป็น 10 แห่ง ภายในปีนี้ โดยเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวสาขาของทั้ง 2 แบรนด์ ณ กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม และจะทยอยเปิดสาขาของทั้ง 2 แบรนด์ ในประเทศพม่า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดสาขาได้ในเดือน พ.ย. และประเทศลาว ขณะนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ประเทศกัมพูชา จะมีการเปิดร้าน BEAUTY BUFFET เพิ่มจำนวน 2 สาขา จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 สาขา และเปิดร้าน BEAUTY COTTAGE 1 สาขา
นายแพทย์สุวิน กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการขยายช่องทางการจำหน่ายของผลิตภัณฑ์เดิมแล้ว ในไตรมาส 4 นี้ บริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ บิวตี้ บุฟเฟต์ ซึ่งเป็นสินค้าประเภทอาหารเสริม Collagen จำนวน 3 รายการ ซึ่งจะวางจำหน่ายในร้าน BEAUTY BUFFET และ BEAUTY MARKET ขณะที่ MADE IN NATURE ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเดิม 2 รายการ เป็น 6 รายการ (Collagen Q10) โดยได้วางจำหน่ายใน Big C เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และผลิตภัณฑ์ Girly Girl ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มสกินแคร์ จำหน่ายผ่านร้านคอนวิเนียนสโตร์ และแค็ตตาล็อก เช่น 7-ELEVEn, Family Mart, 7-Catalog, Friday Catalog และ Traditional Trade โดยขณะนี้ได้วางจำหน่ายผ่าน 7 - Catalog เรียบร้อยแล้ว ส่วนในช่องทางอื่นอยู่ในขั้นตอนการติดต่อประสานงาน
“ในปีนี้มั่นใจว่า BEAUTY จะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หรือมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยนอกจากบริษัทจะมุ่งเน้นการขยายสาขาของ Shop Brand ต่างๆ ตลอดจนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนให้อยู่ระดับเหมาะสม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ ของบริษัทให้อยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/56 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 247.83 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 196.68 ล้านบาท จำนวน 51.15 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 26% และมีกำไรสุทธิ 48.24 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.83 ล้านบาท จำนวน 10.41 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 27% ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 728.06 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 558.63 ล้านบาท จำนวน 169.43 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% และมีกำไรสุทธิ 157.63 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 123.56 ล้านบาท จำนวน 34.07 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 28%
โดยผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นเนื่องจากยอดขายของ BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ซึ่งเป็นสาขาเดิมมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มีการขยายสาขาครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ และมีการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านชอปแบรนด์ใหม่ BEAUTY MARKETใ นส่วนของแผนการดำเนินงานในปี 2557 ทางบริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เน้นการขยายสาขาไปต่างจังหวัด ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสาขา BEAUTY BUFFET 30 สาขา BEAUTY COTTAGE 20 สาขา และ BEAUTY MARKET 15 สาขา ส่วนการขยายตลาดในต่างประเทศ บริษัทได้มีแผนจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติมจากเดิมที่มีเปิดอยู่แล้วในกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม พม่าแ ละลาว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มประเทศที่มีฐานลูกค้าของทาง BEAUTY อยู่แล้ว