“กิตติรัตน์” เผยคำวินิฉัยที่มา ส.ว. ของศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ไม่เหนือความคาดหมาย ยอมรับยังรอด่าน 2 พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ขัดต่อ รธน.หรือไม่
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา แม้ไม่ได้ถูกใจใครทุกคน แต่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาคเศรษฐกิจ และการลงทุนคาดการณ์ไว้ จนกระทบต่อความมั่นใจและความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมีความเกี่ยวข้องกัน แม้การเมืองจะกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจก็ต้องดำเนินต่อไปได้ โดยเศรษฐกิจในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาต่ำกว่าเป้าหมายที่หลายคนคาด เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำล่าช้ากว่าที่คาด แต่ในช่วงไตรมาส 4 ยังมีเวลาหลายสัปดาห์ตามปีปฏิทิน ขณะที่ในปีหน้าก็มีการปรับโครงสร้างภาษี สร้างประสิทธิภาพงบประมาณ
สำหรับการพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ได้ผ่านขั้นตอนของรัฐสภาแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ก็มีโครงการที่ยังอยู่ระหว่างกระบวนการ แต่บางโครงการอีกนิดเดียวก็พร้อม อย่างไรก็ตาม การดำเนินการก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะผ่านได้ เพราะได้ดำเนินงานตามกระบวนการครบถ้วน ทำให้ข้อสงสัยว่าจะไม่ผ่านน้อยเต็มที
“เมื่อ พ.ร.บ.ผ่านกระบวนการตามขั้นตอนทั้งรัฐสภา และวุฒิสภา ก็เชื่อมั่นว่า พ.ร.บ.จะบังคับใช้ได้ แต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ซึ่งการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องใช้เวลาบ้าง อาจทำให้การลงทุนล่าช้าออกไป แต่ต้องยอมรับว่าบางโครงการรอมาแล้วกว่า 50 ปี จะช้าอีก 2-3 เดือนก็คงไม่เป็นไร แต่หากปล่อยให้ล่าช้าเป็นทศวรรษก็ต้องยอมรับว่าต้นทุนโครงการก็ต้องเพิ่มขึ้น จาก 2 ล้านล้านบาทได้ 56 โครงการ อาจจะได้เพียงโครงการรถไฟรางคู่ก็ได้”
สำหรับผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น ในระหว่างที่รอการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน อาจจะทำให้ตัวเลขอดีต และปัจจุบันออกมาไม่สวยนัก แต่เราก็รู้ว่าจะมีแผนลงทุนในอนาคต เศรษฐกิจในระหว่างที่ลงทุน และหลังการลงทุนก็จะดี