หุ้นปิดครึ่งวันเช้าร่วง 17.50 จุด หวั่นการเมืองร้อนแรงช่วงสุดสัปดาห์ การคัดค้าน พ.ร.บ.ยังคงขยายวงกว้าง โดยเฉพาะภาคการศึกษา แนวโน้มการเคลื่อนไหวนอกสภายังคงดำเนินต่อไป ส่งผลต่อจิตวิทยาการเคลื่อนไหวของดัชนีที่มีความผันผวนมาก แถมยังเจอความเสี่ยง “ธปท.” เตรียมหั่น “จีดีพี” กำไร บจ. เริ่มแผ่ว ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรุด 7 เดือนซ้อน และต่ำสุดในรอบ 19 เดือน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 พ.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,407.73 จุด ลดลง 17.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.23% มูลค่าการซื้อขาย 16,501.18 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นย่านเอเชียที่ร่วงลงแรง
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ปรับลงจากประเด็นเรื่องการเมืองในประเทศเป็นหลัก และยังรอผลการตัดสินของศาลโลก วันจันทร์ที่ 11 พ.ย.
นอกจากนี้ ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว หรือปรับลดลงมีโอกาสอีก โดยยุโรปเมื่อคืนมีการลดดอกเบี้ยนโยบายซึ่งค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะตลาดมองว่าไม่น่าจะลง ส่วนปัจจัยภายในประเทศมีความเสี่ยงเรื่องการปรับลดจีดีพีของหน่วยงานต่างๆ และการปรับลดกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะงวดไตรมาส 3 หุ้นบางตัวกำไรต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ค่อนข้างมาก
ด้านนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มองว่า ตลาดยังให้ประเด็นการเมืองเป็นปัจจัยหลักนำตลาด เพราะอุณหภูมิทางการเมืองมองว่ายังไม่ลดลง แม้นายกรัฐมนตรีได้แถลงยืนยันการถอนร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติถอนทุกร่าง 6 ฉบับ เพราะยังเหลือฉบับสุดซอยที่ต้องรอวุฒิสภาพิจารณาตอนบ่าย 2 โมง และการคัดค้านในร่าง พ.ร.บ.ฯ นี้ยังคงขยายวงกว้างขึ้นจากหลายองค์กรโดยเฉพาะภาคการศึกษา รวมถึงการขับเคลื่อนชุมนุมใน 2 จุดยุทธศาสตร์สำคัญ ซึ่งแนวโน้มการเคลื่อนไหวนอกสภายังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยไปจนถึงวันจันทร์หน้า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลจิตวิทยาต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีที่มีความผันผวนมากเนื่องจากก่อนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์
นอกจากนี้ ผลสำรวจ ม.หอการค้าไทย ต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค. อยู่ที่ 76.6 จาก 77.9 ในเดือน ก.ย. เป็นการปรับลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน เป็นผลจากการคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม ขณะเดียวกัน ยังเป็นผลจากการที่ ธปท. ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย และการส่งออกปรับตัวลง
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% และระบุว่า อาจจะลดลงอีกเพื่อป้องกันการฟื้นตัวของยูโรโซนไม่ให้หยุดชะงักจากอัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมาก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของจีดีพีแท้จริงไตรมาส 3 ขยายตัว 2.8% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีก่อนและสูงกว่าโพลที่ 2.0%
กลยุทธ์ หากดัชนีปรับลดลงหลุดต่ำกว่าแนวรับ 1,420 จุด คาดว่าจะเกิดแรงขายมากขึ้นซึ่งอาจกดดันลงที่แนวรับต่อไปที่ 1,395 จุด เราแนะนำขายหุ้น และนักเก็งกำไรระยะสั้นควรกำหนดจุดขายตัดขาดทุนสั้นที่ 1,420 จุด แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลางพอร์ตลงทุนหุ้นคงที่ 90% และถือครองเงินสด 10% หากสามารถยืนเหนือแนวรับสั้นสำคัญ 1,420 จุดได้นั้นยังมีโอกาสทรงตัวทางขึ้นในกรอบ 1,420-1,450 จุด