“มาสเตอร์ แอดฯ” โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ทำกำไรโต 17.70% หลังลูกค้าต่อสัญญาใช้พื้นที่สื่อโฆษณา หนุนอัตราการใช้พื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้นเป็น 78% และความสามารถในการบริหารต้นทุนด้านการบริหารสื่อโฆษณาดีขึ้น ขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือนแรกยังแกร่งต่อเนื่อง ทำกำไรสุทธิโต 22.50% ผู้บริหารประกาศลุยรับงานในลักษณะ Made to Order โค้งสุดท้ายปลายปี หวังดันยอดขายเติบโตตามเป้า
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้นำในด้านความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยครบวงจรของไทย (The Leader in Creative & Innovative OHM Solutions Provider) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/56 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 203.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.38 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้จากการขายและการบริการ 201.32 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 43.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.60.37 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.70% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 37.30 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 539.38 ล้านบาท ลดลง 29.79 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้จากการขายและการบริการ 569.17 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 123.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.71 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.50% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 100.95 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตด้านผลการดำเนินงานบริษัทฯ นั้นมาจากอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณา (Occupancy Rate) ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้สูงขึ้น โดยขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 63% โดยหากแบ่งอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณาจะพบว่า ป้ายโฆษณากลางแจ้ง (Billboard) อยู่ที่ 71% สื่อบริเวณถนน (Street Furniture) อยู่ที่ 81% และสื่อบริเวณสถานีขนส่งและยานพาหนะ (Transit) อยู่ที่ 81%
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ที่เติบโตได้ดีในแง่ของกำไรสุทธิ มาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ได้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ป้ายโฆษณาในระยะยาว ประกอบกับต้นทุนด้านป้ายโฆษณาเป็นต้นทุนคงที่ ดังนั้น เมื่อยอดอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรจากผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นตามไปด้วย” นายนพดลกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MACO กล่าวด้วยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นเรื่องการรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ได้ในระดับ 20% และผลักดันอัตราการเติบโตของตัวเลขรายได้ โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งขยายส่วนงาน Made to Order ประเภทงาน Event ให้มากขึ้น เนื่องจากยังมีช่องว่างให้บริษัทฯ ได้รุกธุรกิจในส่วนนี้ได้อีกมาก ประกอบกับบริษัทฯ มีศักยภาพ และความพร้อมด้านทีมงาน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับลูกค้ารายใหญ่ 2-3 ราย เพื่อมูลค่างาน Made to Order ที่มีผลต่อรายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้จะสามารถเติบโตได้มากกว่าปีก่อน