หุ้นปิดครึ่งวันเช้าติดลบ 11 จุด โบรกฯ คาดปรับฐานหลังขึ้นต่อเนื่อง 2 วัน โบรกฯ ยอมรับตลาดยังเปราะบาง แม้จะออกข่าวให้คว่ำ พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย แต่การเมืองยังเสี่ยงอยู่ เพราะประชาชนที่มาชุมนุมยังไม่เชื่อมั่นรัฐบาล และการชุมนุมก็ยังคงอยู่ โดยขณะนี้ไม่มีใครเชื่อว่าม็อบจะถอย และเมื่อม็อบยังอยู่แรงกดดันก็จะยังปรากฏ
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,423.90 จุด ลดลง 11.07 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.77% มูลค่าการซื้อขาย 18,818.31 ล้านบาท
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาก็ทรงตัว หลังจากนั้น ก็มีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องม็อบว่าจะถอยหรือไม่ถอย ซึ่งขณะนี้ม็อบได้มองข้ามเรื่องของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปแล้ว แต่จะมีประเด็นอื่นเข้ามาแทน ซึ่งตอนนี้ก็ต้องรอดูวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (11 พ.ย.) โดยขณะนี้ไม่มีใครเชื่อว่าม็อบจะถอย และเมื่อม็อบยังอยู่แรงกดดันก็จะยังปรากฏ
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบเล็กน้อย เนื่องจากกำลังรอดูตัวเลข GDP งวดไตรมาส 3/56 ของสหรัฐฯ และรอดูการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ECB ในคืนวันนี้เช่นกัน
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ มองว่าตลาดยังคงจะแกว่งตัวไม่มาก และอาจมีแรงซื้อคืนกลับมา เนื่องจากต่างก็ยังรอลุ้นผลประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ และในวันนี้ดัชนีก็มีการปรับฐานไปบ้างแล้ว
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด จำกัด ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปราะบาง แมว่านายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย จะออกมายืนยันว่าจะไม่มีการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลับมาพิจารณาอีก หากวุฒิสภามีมติไม่รับหลักการในการประชุมวันที่ 11 พ.ย.2556 และจะถอน พ.ร.บ.ในลักษณะเดียวกันที่ค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรอีก 6 ฉบับ ออกด้วย
กรณีดังกล่าวส่งผลให้ความเสี่ยงทางการเมืองในช่วง พ.ย.2556 ลดลงไป แต่ก็ยังคงมีอยู่ ทั้งในส่วนของการตัดสินการแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. จากศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้
ขณะเดียวกัน การที่ ป.ป.ช. จะเปิดผลการสอบประเด็นที่ทุจริตโครงการจำนำข้าว หรือโครงการประมูลระบบน้ำในช่วง พ.ย.2556 ทำให้การปรับตัวขึ้นต่อของดัชนีฯ ยังคงเปราะบาง นอกจากนี้ หลังการตัดสินคดีเขาพระวิหาร วันที่ 11 พ.ย. จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่า