“ซิงเสียนเยอะเป้า” จับมือ “หนานฟาง” กลุ่มสื่อที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในจีน เพื่อผนึกกำลังเสริมประสิทธิภาพครั้งใหญ่ “สดาวุธ เตชะอุบล” เผยเพื่อเป็นการยกระดับ และคุณภาพหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล รองรับเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ในการปรับปรุงรูปแบบ เนื้อหา ข่าวสาร พร้อมการนำเสนอสื่อรูปแบบใหม่และพลังการสร้างสรรค์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำสื่อภาษาจีนชั้นแนวหน้าในประเทศไทย รวมทั้งช่วยกระชับความสัมพันธ์ไทยจีนให้แน่นแฟ้นขึ้น
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะผู้บริหารหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า เปิดเผยว่า บริษัท หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า จำกัด ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ บริษัทกิจการหนังสือพิมพ์หนานฟาง จากประเทศจีน โดยมี นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจาง อี้ หมิง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สมาคมชาวจีนโพ้นทะเล ผู้แทนองค์การการลงทุนจีนประจำประเทศไทย ผู้แทนวิสาหกิจไทย และผู้แทนสื่อต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามครั้งนี้
การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นอีกย่างก้าวหนึ่งครั้งสำคัญในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ และความร่วมมือเชิงลึกครั้งแรกระหว่างหนังสือพิมพ์ภาษาจีนในประเทศไทย กับธุรกิจหนังสือพิมพ์ในประเทศจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากบุคคลแวดวงธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีจีน นายหลี่ เค่อ เฉียง ได้มาเยือนไทยช่วงประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ส่งหนังสือแสดงความยินดีกับพิธีลงนามในครั้งนี้ด้วย
ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพความเข้มแข็งของทั้ง 2 บริษัท เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล ในการช่วยต่อยอดเทคโนโลยี องค์ความรู้ และอื่นๆ รวมทั้งการพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ ตลอดถึงการขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)ใน ปี 2015 ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้อ่านได้รับข่าวสารความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่นๆ
“กลุ่มหนานฟางถือได้ว่าเป็นกลุ่มสื่อที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดสื่อหนึ่งในประเทศจีน ภายหลังจากที่กลุ่มผู้บริหารได้เข้ามาประจำที่ซิงเสียนเยอะเป้า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้ทำการปรับปรุงเนื้อหา ข่าวสาร ตลอดจนรูปแบบหนังสือพิมพ์ในระดับพื้นฐาน อีกทั้งยังช่วยผลักดันฝ่ายจัดจำหน่าย และโฆษณาของเราให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เซ็นสัญญาร่วมกันอย่างเป็นทางการแล้ว จะช่วยกันยกระดับคุณภาพหนังสือพิมพ์ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการนำเสนอสื่อรูปแบบใหม่ และการสร้างสรรค์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นสื่อภาษาจีนชั้นแนวหน้าในประเทศไทย พร้อมทั้งช่วยกระชับความสัมพันธ์ไทยจีน ผ่านการถ่ายทอด และต่อยอดการแลกเปลี่ยนทางการค้า ท่องเที่ยว และวัฒนธรรมในทุกมิติของทั้ง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า ฉบับแรกได้ถือกำเนิดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2493 จนถึงวันนี้ 63 ปีผ่านไปได้เติบใหญ่อย่างมั่นคง จนก้าวสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีนที่มีผู้อ่านมากที่สุดในประเทศไทย โดยทำหน้าที่รายงานข่าวที่สด ใหม่ เที่ยงตรงสู่กลุ่มผู้อ่านในหัวข้อที่หลากหลาย ซึ่งเป็นผู้นำ และนักบริหารระดับสูงของประเทศ ขณะที่กลุ่มบริษัท กิจการหนังสือพิมพ์หนานฟาง (หนานฟาง) ถือได้ว่าเป็นบริษัทหนึ่งที่มีศักยภาพ ภายใต้การบริหารงานสื่อในเครือจำนวนมาก ซึ่งได้รับผลงาน และรางวัลมากมาย เช่น การได้รับคัดเลือกการจัดอันดับ “500 แบรนด์ที่มีคุณค่ามากที่สุดของจีน” เป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน รางวัล “ธุรกิจที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศจีน” ปี 2001, 2006 และ 2009 และ “หนังสือพิมพ์แบรนด์เนมชั้นนำในจีนระหว่างปี 2001-2010” เป็นต้น
“ความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 บริษัทจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญสู่ความสำเร็จ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป รวมถึงเพื่อเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ไทยจีนให้มีความเป็นปึกแผ่นและมั่นคงยิ่งๆ ขึ้น ผ่านการถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้า การลงทุน ท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันในโอกาสต่อๆ ไป รวมทั้งเป็นต้นแบบของความร่วมมือที่ดีระหว่างสื่อไทยจีน เพื่อเป็นพลังงานที่ผลักดันบรรลุวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 ประเทศในอนาคต” นายสดาวุธกล่าว
ด้านนายหวงเสี่ยวตง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท หนานฟางมีเดีย กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าร่วมลงทุนกับซิงเสียนเยอะเป้าในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพ และแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากประวัติการเติบโตที่ยาวนานของซิงเสียนเยอะเป้า สู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีนยักษ์ใหญ่ที่มีผู้อ่านมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งในด้านวิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้บริหาร ทีมงาน และบุคลากรระดับคุณภาพ ที่มุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จ และเติบโตที่ดีมาถึงทุกวันนี้
พร้อมกันนี้ ยังมองเห็นถึงศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของประเทศไทย ภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2015 (AEC) ที่จะสามารถขยายฐานการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่เฉพาะแค่เพียงประเทศไทย แต่รวมถึงตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค เพื่อให้กลุ่มผู้อ่านได้รับข่าวสารความรู้ที่เป็นประโยชน์ และสามารถนำมาปรับใช้ให้ทันกับกระแสเศรษฐกิจของโลกในยุคปัจจุบัน โดยที่ทางกลุ่มของหนานฟาง จะเข้ามาช่วยปรับปรุงเนื้อหา ข่าวสาร ตลอดจนรูปแบบหนังสือพิมพ์ของซิงเสียนเยอะเป้า ให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การรวมพลังระหว่างหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ภาษาจีนทั้ง 2 ฉบับ จะเป็นมิติใหม่ของแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ประเทศไทย ในการหลอมรวมจุดเด่นของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานที่ดี เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำสื่อภาษาจีนชั้นแนวหน้าในประเทศไทย และการขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
“ปัจจุบัน หนานฟางมีเดีย กรุ๊ป ได้เข้ามาร่วมทุนกับซิงเสียนเยอะเป้าอย่างสมบูรณ์ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมพัฒนาเชิงลึกกันอย่างรอบด้าน สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะดำเนินการธุรกิจหนังสือพิมพ์ข้ามชาติซึ่งกันและกัน และเมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา ได้ส่งทีมงานมืออาชีพ Gen-X เข้ามาบริหารและช่วยปรับปรุงหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าให้กลับมามีชีวิตชีวา รูปแบบใหม่ ทันเหตุการณ์ และน่าอ่านยิ่งขึ้น ซึ่งอนาคตจะค่อยๆ ขับเคลื่อนสู่ประเทศจีน และอาเซียน เพื่อพัฒนาซิงเสียนเยอะเป้าให้กลายเป็นสื่อภาษาจีนที่เป็นที่นิยมและดีที่สุดในประเทศไทย” นายหวงเสี่ยวตง กล่าวในที่สุด
อนึ่ง หนานฟางมีเดีย กรุ๊ป ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2492 ด้วยการพัฒนามาจากหนังสือพิมพ์หนานฟางรายวัน ของหน่วยงานรัฐบาลในมณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบัน มีหนังสือพิมพ์ในเครือทั้งหมด 14 ฉบับ นิตยสาร 9 เล่ม 6 เว็บไซด์ และ 1 สำนักพิมพ์ โดยได้รับการยกย่องจากวงการวิชาการในประเทศจีนให้เป็นองค์กรที่ “มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจนที่สุด” และเพียงแค่หนังสือพิมพ์รายวันหนานฟาง หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์หนานฟาง หนังสือพิมพ์เมืองหนานฟาง รายงานภาวะเศรษฐกิจศตวรรษที่ 21 หนังสือพิมพ์ทั้ง 4 เล่มนี้ มีมูลค่ารวมกว่า 4.09 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเป็นอันดับ 1 ใน 500 แบรนด์ที่มีคุณค่ามากที่สุดในกลุ่มสื่อหนังสือพิมพ์จีน
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะผู้บริหารหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า เปิดเผยว่า บริษัท หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า จำกัด ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ บริษัทกิจการหนังสือพิมพ์หนานฟาง จากประเทศจีน โดยมี นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจาง อี้ หมิง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สมาคมชาวจีนโพ้นทะเล ผู้แทนองค์การการลงทุนจีนประจำประเทศไทย ผู้แทนวิสาหกิจไทย และผู้แทนสื่อต่างๆ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามครั้งนี้
การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นอีกย่างก้าวหนึ่งครั้งสำคัญในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ และความร่วมมือเชิงลึกครั้งแรกระหว่างหนังสือพิมพ์ภาษาจีนในประเทศไทย กับธุรกิจหนังสือพิมพ์ในประเทศจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากบุคคลแวดวงธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีจีน นายหลี่ เค่อ เฉียง ได้มาเยือนไทยช่วงประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ส่งหนังสือแสดงความยินดีกับพิธีลงนามในครั้งนี้ด้วย
ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพความเข้มแข็งของทั้ง 2 บริษัท เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล ในการช่วยต่อยอดเทคโนโลยี องค์ความรู้ และอื่นๆ รวมทั้งการพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ ตลอดถึงการขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)ใน ปี 2015 ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้อ่านได้รับข่าวสารความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่นๆ
“กลุ่มหนานฟางถือได้ว่าเป็นกลุ่มสื่อที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดสื่อหนึ่งในประเทศจีน ภายหลังจากที่กลุ่มผู้บริหารได้เข้ามาประจำที่ซิงเสียนเยอะเป้า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้ทำการปรับปรุงเนื้อหา ข่าวสาร ตลอดจนรูปแบบหนังสือพิมพ์ในระดับพื้นฐาน อีกทั้งยังช่วยผลักดันฝ่ายจัดจำหน่าย และโฆษณาของเราให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เซ็นสัญญาร่วมกันอย่างเป็นทางการแล้ว จะช่วยกันยกระดับคุณภาพหนังสือพิมพ์ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการนำเสนอสื่อรูปแบบใหม่ และการสร้างสรรค์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นสื่อภาษาจีนชั้นแนวหน้าในประเทศไทย พร้อมทั้งช่วยกระชับความสัมพันธ์ไทยจีน ผ่านการถ่ายทอด และต่อยอดการแลกเปลี่ยนทางการค้า ท่องเที่ยว และวัฒนธรรมในทุกมิติของทั้ง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้า ฉบับแรกได้ถือกำเนิดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2493 จนถึงวันนี้ 63 ปีผ่านไปได้เติบใหญ่อย่างมั่นคง จนก้าวสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีนที่มีผู้อ่านมากที่สุดในประเทศไทย โดยทำหน้าที่รายงานข่าวที่สด ใหม่ เที่ยงตรงสู่กลุ่มผู้อ่านในหัวข้อที่หลากหลาย ซึ่งเป็นผู้นำ และนักบริหารระดับสูงของประเทศ ขณะที่กลุ่มบริษัท กิจการหนังสือพิมพ์หนานฟาง (หนานฟาง) ถือได้ว่าเป็นบริษัทหนึ่งที่มีศักยภาพ ภายใต้การบริหารงานสื่อในเครือจำนวนมาก ซึ่งได้รับผลงาน และรางวัลมากมาย เช่น การได้รับคัดเลือกการจัดอันดับ “500 แบรนด์ที่มีคุณค่ามากที่สุดของจีน” เป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน รางวัล “ธุรกิจที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศจีน” ปี 2001, 2006 และ 2009 และ “หนังสือพิมพ์แบรนด์เนมชั้นนำในจีนระหว่างปี 2001-2010” เป็นต้น
“ความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 บริษัทจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญสู่ความสำเร็จ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป รวมถึงเพื่อเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ไทยจีนให้มีความเป็นปึกแผ่นและมั่นคงยิ่งๆ ขึ้น ผ่านการถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้า การลงทุน ท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันในโอกาสต่อๆ ไป รวมทั้งเป็นต้นแบบของความร่วมมือที่ดีระหว่างสื่อไทยจีน เพื่อเป็นพลังงานที่ผลักดันบรรลุวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 ประเทศในอนาคต” นายสดาวุธกล่าว
ด้านนายหวงเสี่ยวตง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท หนานฟางมีเดีย กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การเข้าร่วมลงทุนกับซิงเสียนเยอะเป้าในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพ และแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากประวัติการเติบโตที่ยาวนานของซิงเสียนเยอะเป้า สู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีนยักษ์ใหญ่ที่มีผู้อ่านมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งในด้านวิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้บริหาร ทีมงาน และบุคลากรระดับคุณภาพ ที่มุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จ และเติบโตที่ดีมาถึงทุกวันนี้
พร้อมกันนี้ ยังมองเห็นถึงศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของประเทศไทย ภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2015 (AEC) ที่จะสามารถขยายฐานการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่เฉพาะแค่เพียงประเทศไทย แต่รวมถึงตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค เพื่อให้กลุ่มผู้อ่านได้รับข่าวสารความรู้ที่เป็นประโยชน์ และสามารถนำมาปรับใช้ให้ทันกับกระแสเศรษฐกิจของโลกในยุคปัจจุบัน โดยที่ทางกลุ่มของหนานฟาง จะเข้ามาช่วยปรับปรุงเนื้อหา ข่าวสาร ตลอดจนรูปแบบหนังสือพิมพ์ของซิงเสียนเยอะเป้า ให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การรวมพลังระหว่างหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ภาษาจีนทั้ง 2 ฉบับ จะเป็นมิติใหม่ของแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ประเทศไทย ในการหลอมรวมจุดเด่นของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานที่ดี เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำสื่อภาษาจีนชั้นแนวหน้าในประเทศไทย และการขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
“ปัจจุบัน หนานฟางมีเดีย กรุ๊ป ได้เข้ามาร่วมทุนกับซิงเสียนเยอะเป้าอย่างสมบูรณ์ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมพัฒนาเชิงลึกกันอย่างรอบด้าน สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะดำเนินการธุรกิจหนังสือพิมพ์ข้ามชาติซึ่งกันและกัน และเมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา ได้ส่งทีมงานมืออาชีพ Gen-X เข้ามาบริหารและช่วยปรับปรุงหนังสือพิมพ์ซิงเสียนเยอะเป้าให้กลับมามีชีวิตชีวา รูปแบบใหม่ ทันเหตุการณ์ และน่าอ่านยิ่งขึ้น ซึ่งอนาคตจะค่อยๆ ขับเคลื่อนสู่ประเทศจีน และอาเซียน เพื่อพัฒนาซิงเสียนเยอะเป้าให้กลายเป็นสื่อภาษาจีนที่เป็นที่นิยมและดีที่สุดในประเทศไทย” นายหวงเสี่ยวตง กล่าวในที่สุด
อนึ่ง หนานฟางมีเดีย กรุ๊ป ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2492 ด้วยการพัฒนามาจากหนังสือพิมพ์หนานฟางรายวัน ของหน่วยงานรัฐบาลในมณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบัน มีหนังสือพิมพ์ในเครือทั้งหมด 14 ฉบับ นิตยสาร 9 เล่ม 6 เว็บไซด์ และ 1 สำนักพิมพ์ โดยได้รับการยกย่องจากวงการวิชาการในประเทศจีนให้เป็นองค์กรที่ “มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจนที่สุด” และเพียงแค่หนังสือพิมพ์รายวันหนานฟาง หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์หนานฟาง หนังสือพิมพ์เมืองหนานฟาง รายงานภาวะเศรษฐกิจศตวรรษที่ 21 หนังสือพิมพ์ทั้ง 4 เล่มนี้ มีมูลค่ารวมกว่า 4.09 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเป็นอันดับ 1 ใน 500 แบรนด์ที่มีคุณค่ามากที่สุดในกลุ่มสื่อหนังสือพิมพ์จีน