“ซังโกะ ไดคาซติ้งฯ” รับปีนี้ยอดขายพลาดเป้า หลังกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนอะลูมิเนียม และสังกะสีฉีดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ฉีดหล่อความดันสูง ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัว แต่ยังมั่นใจปีหน้ายอดขายเด้งกลับ หลังมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เชื่อผู้ถือหุ้น SANKO เข้าใจดี เพราะส่วนใหญ่ถือยาวมากกว่านักลงทุนระยะสั้น
นายรัฐวัฒน์ ศุขสายชล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SANKO ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอะลูมิเนียม และสังกะสีฉีดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ฉีดหล่อความดันสูง (High-Pressure Diecasting หรือ HPDC) ให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลเกษตร และอื่นๆ เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ที่เติบโตแบบชะลอตัวลง ได้ส่งผลต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอะลูมิเนียม และสังกะสีฉีดขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ฉีดหล่อความดันสูง ที่มีฐานลูกค้ารายใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีฐานการผลิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากปัจจัยลบดังกล่าวส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากที่เคยคาดว่าจะมียอดขายสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 474 ล้านบาท ก็น่าจะลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานในปี 2557 คาดว่าจะสามารถกลับมาเติบโตแข็งแกร่งได้อีกครั้ง หลังจากอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศฟื้นตัว โดยขณะนี้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ได้เริ่มทยอยสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับแผนการผลิตรถยนต์ในปี 2557 ที่คาดว่าจะมียอดผลิตรถยนต์สูงถึง 2.5 ล้านคัน ซึ่งล่าสุด SANKO ได้เตรียมเซ็นสัญญาโครงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้แก่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ โดยมีมูลค่าการขายต่อเดือนประมาณ 13 ล้านบาท เมื่อรวมกับมูลค่างานในมือที่มีอยู่เดิมประมาณเดือนละ 27 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าในปี 2557 ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
“ปีนี้เรายอมรับว่ายอดขายต่ำกว่าเป้า เพราะอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยชะลอตัว แต่ปีหน้าเชื่อว่าเราจะกลับมาเติบโตแบบแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน จากขีดความสามารถการแข่งขันของเราที่ดีขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับมูลค่างานในมือที่มีอยู่เดิมจะเป็นแรงหนุนที่ดีต่อผลต่อผลการดำเนินงานในปี 2557 ที่จะเติบโตมาก ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนที่ถือหุ้น SANKO ส่วนใหญ่จะเข้าใจดี เพราะส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่ต้องการถือยาวๆ มากกว่านักลงทุนระยะสั้น” นายรัฐวัฒน์กล่าว
