SCCC ชี้ปริมาณความต้องการใช้ปูนฯ กลับมาสูงขึ้นใน Q4/56 จนถึงปี 57 จากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเจริญเติบโตในกิจกรรมการก่อสร้างเชิงพาณิชย์ และการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC เปิดเผยว่า ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างของตลาดมีความน่าจะเป็นที่จะกลับมาสูงขึ้นในไตรมาส 4/56 และคาดการณ์ว่า ความต้องการของตลาดจะปรับตัวในเชิงบวกอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 57 หลังจากปริมาณความต้องการของตลาดปูนซีเมนต์ลดลงในไตรมาส 3/56
บริษัทมองว่า ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเจริญเติบโตในกิจกรรมการก่อสร้างเชิงพาณิชย์ และการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ยอดขายสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาซีเมนต์สำหรับตลาดในประเทศ และตลาดชายแดน รวมทั้งรายได้จากการขยายกำลังการผลิตในหลายๆ ธุรกิจ
SCCC ได้รายงานผลประกอบการเก้าเดือนแรกของปี 56 มีรายได้จากการขายสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 เป็น 22,565 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 20,029 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 55 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.4 เป็น 4,044 ล้านบาท จาก 2,880 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 55 กำไรสุทธิต่อหุ้น 17.58 บาท เทียบกับ 12.52 บาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากมีการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าจ้างอัตราค่าไฟฟ้า และต้นทุนค่าขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหิน รวมถึงการริเริ่มโครงการสนับสนุนการประหยัดพลังงานต่างๆ โดยส่งผลให้บริษัทยังคงสามารถควบคุมต้นทุนได้ ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.8 ในเก้าเดือนแรกของปี 56 เทียบกับร้อยละ 17.4 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC เปิดเผยว่า ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างของตลาดมีความน่าจะเป็นที่จะกลับมาสูงขึ้นในไตรมาส 4/56 และคาดการณ์ว่า ความต้องการของตลาดจะปรับตัวในเชิงบวกอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 57 หลังจากปริมาณความต้องการของตลาดปูนซีเมนต์ลดลงในไตรมาส 3/56
บริษัทมองว่า ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเจริญเติบโตในกิจกรรมการก่อสร้างเชิงพาณิชย์ และการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ยอดขายสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาซีเมนต์สำหรับตลาดในประเทศ และตลาดชายแดน รวมทั้งรายได้จากการขยายกำลังการผลิตในหลายๆ ธุรกิจ
SCCC ได้รายงานผลประกอบการเก้าเดือนแรกของปี 56 มีรายได้จากการขายสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 เป็น 22,565 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 20,029 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 55 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.4 เป็น 4,044 ล้านบาท จาก 2,880 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 55 กำไรสุทธิต่อหุ้น 17.58 บาท เทียบกับ 12.52 บาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากมีการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าจ้างอัตราค่าไฟฟ้า และต้นทุนค่าขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหิน รวมถึงการริเริ่มโครงการสนับสนุนการประหยัดพลังงานต่างๆ โดยส่งผลให้บริษัทยังคงสามารถควบคุมต้นทุนได้ ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.8 ในเก้าเดือนแรกของปี 56 เทียบกับร้อยละ 17.4 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
