ฉะเชิงเทรา - อ่างเก็บน้ำยักษ์ใหญ่ภาคตะวันออก จ่อใกล้เต็มพิกัดอีกแห่งแล้ว ส่วนอ่างบริวารน้อยใหญ่พื้นที่ลุ่มน้ำตอนบน ล้นสปิลเวย์หมดแล้วทุกจุด ขณะมวลน้ำป่ายังคงไหลลงสู่ท้ายเขื่อนอย่างรวดเร็ว พรวดเดียวถึงวันละกว่า 44 ล้าน ลบ.ม. เชื่อพรุ่งนี้มีสิทธิล้นไหลเทลงใส่ชาวบ้านตอนล่าง ซ้ำรอยน้ำจากปราจีนบุรีอีกระลอก
วันนี้ (6 ต.ค.) นายทินกร รัตนพัวพันธ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองสียัด อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำสียัดใกล้เต็มความจุแล้ว หลังจากมีมวลน้ำป่าเขตรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ไหลลงสู่อ่าง โดยเพียงวันเดียวมีปริมาณมากกว่า 44 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ทำให้จนถึงขณะนี้มีน้ำอยู่ในอ่าง 391 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 93 ของความจุอ่างที่เสริมขอบยางสปิลเวย์แล้ว จากเดิมตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน มีน้ำอยู่ในอ่างเพียง 290 ล้าน ลบ.ม. และเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม มีน้ำ 320 ล้าน ลบ.ม. และจนถึงขณะนี้ยังคงมีน้ำไหลเข้าอ่างอย่างต่อเนื่อง คาดว่ามีกว่า 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ขณะเดียวกัน เหลือพื้นรองรับน้ำอีกเพียง 30 ล้าน ลบ.ม. ก็จะเต็มความจุที่ 420 ล้าน ลบ.ม.
ช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางตอนล่างของอ่างเก็บน้ำสียัดนั้น ขอยืนยันว่าอ่างเก็บน้ำสียัดยังไม่เคยระบานยน้ำออกจากตัวเขื่อนเลย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา โดยน้ำที่ไหลลงไปทางตอนล่างนั้น ส่วนใหญ่เป็นน้ำป่าจากห้วยโสม ที่อยู่ต่ำลงไปจากสียัดอีก 5 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีฝาย โดยน้ำป่าจากห้วยโสมนั้นมีอัตราการไหลลงไปพื้นที่ตอนล่างถึงวันละ 4 แสน ลบ.ม.
นอกจากนี้ น้ำอ่างเก็บน้ำลาดกระทิง ซึ่งมีความจุเพียง 4 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีน้ำเต็มแล้ว รวมทั้งอ่างเก็บน้ำคลองระบมด้วย โดยมีน้ำไหลออกวันละกว่า 1 ล้าน ลบ.ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำสียัดนั้น ถือเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีความจุสูงสุดมากถึง 437 ล้าน ลบ.ม. ขณะพองลมฝายขอบยางสปิลเวย์สูงสุด หรือเป็นเขื่อนที่มีความจุมากที่สุดในกลุ่ม 8 จังหวัดภาคตะวันออก มีความจุมากกว่าเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ที่มีความจุเพียง 224 ล้าน ลบ.ม.