เคทีซีจัด 50 ล้าน ออกแคมเปญ “ใช้ 10,000 รับ 1,000 คะแนน” กระตุ้นยอดใช้จ่ายโค้งสุดท้ายของปี รับช่วงที่ผ่านมายยอดโตแค่ 5% เผยแผนปีหน้าเน้นจับมือพันธมิตรทำการตลาดเชิงรุก
นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (เคทีซี) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตประมาณ 5% ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโตได้ถึง 13% เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้เน้นแคมเปญใหม่เพื่อกระตุ้นยอดใช้จ่ายมากนัก แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งถือเป็นช่วงที่ยอดจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดของปี ประกอบกับเคทีซีจะมีแคมเปญเพื่อช่วยกระตุ้นออกมา จึงน่าจะช่วยให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงขึ้นได้
โดยล่าสุด ได้ออกแคมเปญ “ใช้ 10,000 บาท รับ 1,000 คะแนน” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกทุกกลุ่ม ดึงจุดแข็งคะแนนสะสม Forever Rewards เป็นแม่เหล็กสำคัญ ชูจุดเด่นเรื่องความสะดวก ไม่ยุ่งยาก และไม่จำกัดยอดคะแนนสูงสุด ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.2556-31 ม.ค. 2557 โดยคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยรวมหลังจบแคมเปญเพิ่มขึ้น 30% จากปกติที่ผู้บริโถคจะมีการใช้จ่ายในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี มากกว่าช่วงเวลาปกติ 20%
“เคทีซีใช้งบทางการตลาดสำหรับแคมเปญนี้ถึง 50 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งท้ายในปีนี้ ซึ่งตามปกติแล้วยอดใช้จ่าย 10,000 บาท จะได้คะแนนเพียง 400 คะแนน หรือหากจะได้คะแนน 1,000 คะแนน ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายถึง 25,000 บาท ดังนั้น จากที่เราสำรวจแล้วว่าพอยท์ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเคทีซี จึงเชื่อว่าแคมเปญนี้น่าจะดึงยอดใช้จ่ายได้พอสมควร”
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2557 บริษัทจะมีการทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพื่อผลักดันให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตได้ต่อเนื่องในระดับ 15% จากปีนี้ และตั้งเป้าขยายจำนวนบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 4 แสนบัตร จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจำนวนบัตรเครดิตคงค้างจะอยู่ที่ 1.6 ล้านบัตร พร้อมกันนั้น ก็จะเพิ่มความร่วมมือพันธมิตรทั้งรายเก่า และรายใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ถือบัตรมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เนื่องจากผู้ถือบัตรร่วมของแบรนด์ใดก็จะมีความต้องการใช้จ่ายตามแบรนด์นั้นๆ อยู่แล้ว
ส่วนกรณีร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ. ... ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาฯนั้น ยอมรับว่าหากผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ จะมีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทแน่นอน จากที่มีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต และค่าธรรมเนียมยอดคงค้างที่ผู้ถือบัตรค้างชำระ ณ วันที่ชำระไม่ครบ ขณะที่ฐานลูกค้าบัตรเครดิตราว 30% เป็นลูกค้าที่ผ่อนชำระ แต่ขณะนี้บริษัทได้มีการศึกษาผลกระทบ พร้อมทั้งเตรียมปรับกลยุทธ์รับสถานการณ์หากมีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้ว
