“โกลเด้นแลนด์” เดินหน้าลุยพัฒนาอสังหาฯ หลังปรับโครงการองค์กรเสร็จ เปิดแผนปี 57ผุด 10 โครงการแนวราบ มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คาดปี 56 รายได้ 600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาทภายในปี 61
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ หรือ GOLD เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ปรับโครงสร้างองค์กร และรีแบรนดิ้งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มเดินหน้าการลงทุนอย่างเต็มที่ โดยแบ่งการลงทุ่นออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.พัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 2.พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ โดยจะมีสัดส่วนรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร้อยละ 70 ส่วนอีก 30% เป็นรายได้จากค่าเช่า
ส่วนที่ดิน และทรัพย์สินที่ไม่ตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท เช่น โครงการพาโนรามา กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ จ.นครราชสีมา พื้นที่ 2,096 ไร่ มูลค่าโครงการ 693 ล้านบาท, ที่ดินที่หนองทะเล จ. กระบี่ พื้นที่ 118 ไร่เศษ มูลค่ากว่า 251 ล้านบาท, ที่ดินติดทะเลที่ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ 212 ไร่เศษ มูลค่า 221 ล้านบาทเศษ, ที่ดินที่ อ.เชียงของ จ. เชียงราย พื้นที่กว่า 30 ไร่ และที่ดินที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พื้นที่ 40 ไร่ เป็นต้น ซึ่งจะนำมาประมูลในปี 2557 เพื่อนำรายได้มาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่อไป
ล่าสุด ได้เปิดตัว นายแสนผิน สุขี อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) และอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด(มหาชน) มาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ โดยนายแสนผิน กล่าวถึงแผนการดำเนินงานของโกลเด้นแลนด์หลังจากนี้ว่า ปี 2556 โกลเด้นแลนด์ ตั้งเป้ารายได้ที่ 600 ล้านบาท ปี 2559 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท และในปี 2561 หรือภายใน 5 ปีหลังจากนี้ บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท จากทั้งหมด 34 โครงการ
ในปี 2557 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท โดยโครงการของบริษัทจะเป็นโครงการแนวราบ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน และชั้นนอก ครอบคลุมพื้นที่บางนา วัชรพล พระราม 2 สุขุมวิท ปิ่นเกล้า รัตนาธิเบศร์ สุขสวัสดิ์ เกษตรนวมินทร์ และแจ้งวัฒนะ เป็นต้น ในเบื้องต้นจะพัฒนาภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.โกลเด้น วิลเลจ โครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านที่เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ขนาด 2-3 ชั้น เจาะกลุ่มครอบครัวขนาดกลาง รวมถึงครอบครัวขยายที่มองหาบ้านหลังที่ 2 ราคาเริ่มต้นที่ 3.5-10 ล้านบาท
2.โกลเด้น ทาวน์ โครงการทาวน์เฮาส์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ บ้านสนองตอบไลฟ์สไตล์ชีวิตเมือง โครงการมีลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ขนาด 2-3 ชั้น เจาะกลุ่มวัยทำงานตอนต้น-กลาง ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เริ่มต้นมีครอบครัว ราคาเริ่มต้นที่ 1.9-5 ล้านบาท 3.โกลเด้น อเวนิว ภายใต้คอนเซ็ปต์ชุมชนคุณภาพ แบรนด์นี้จะเป็นส่วนผสมของ 2 แบรนด์แรกมารวมกัน คือ มีทั้งทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวรวมในโครงการเดียวกัน
สำหรับทั้ง 10 โครงการ ที่จะเปิดขายในปี 57 บริษัทได้ซื้อที่ดินไว้หมดแล้ว รวมมูลค่าที่ดินกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบลงทุนอีก 2,000 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดินอีกประมาณ 8 แปลงในปี 57 เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการในปี 58
“แผนการลงทุนเพื่อให้บริษัทมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วนั้น บริษัทจะเน้นการเปิดตัวโครงการที่เร็ว ขายเร็ว สร้างเร็ว กล่าวคือ จะต้องเปิดขายโครงการให้ได้ภายใน 7 เดือนนับจากซื้อที่ดิน และสร้างส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายใน 4 เดือน ซึ่งจะทำให้หมุนรอบบัญชีได้เร็ว ส่วนงานก่อสร้างนั้น บริษัทได้ใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปทั้งหมด เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว แก้ปัญหาแรงงาน และผู้รับเหมาขาดแคลน ทั้งยังมีราคาแพงอีกด้วย ซี่งในปัจจุบัน ต้นทุนของวัสดุสำเร็จรูปถือว่าถูกลงไปมาก เพราะมีผู้ผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีราคาถูกกว่าค่าจ้างผู้รับเหมาถึง 10% นอกจากนี้ บริษัทใช้วิธีสั่งซื้อวัสดุล่วงหน้าเพื่อล็อกราคา ทั้งยังทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี” นายแสนผินกล่าว
สำหรับในปี 2556 นี้ มีโครงการที่พร้อมเปิดขาย จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการโกลเด้น อเวนิว แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ ตั้งอยู่บริเวณถนนติวานนท์ ซ.สุขาประชาสรรค์ 3 (โรงเรียนอัมพรไพศาล) โครงการผสมผสานบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ โดยบ้านเดี่ยวจะมีขนาด 36-50 ตารางวา ขนาด 3-4 ห้องนอน โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 60 ยูนิต บ้านแฝดขนาด 3 ห้องนอน จำนวนทั้งสิ้น 30 ยูนิต และ ทาวน์เฮาส์ ขนาด 18.5-21 ตารางวา 4 ห้องนอน จำนวนทั้งสิ้น 321 ยูนิต โครงการจะแล้วเสร็จประมาณปี 2014 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท สำหรับทาวเฮาส์ และ 3.59 ล้านบาท สำหรับบ้านเดี่ยว