xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปิดบวก 8 จุด โบรกฯ คาดหุ้นรีบาวนด์ทางเทคนิค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยปิดบวกขึ้นมาเล็กน้อยที่ 8.82 จุด อยู่ที่ระดับ 1,457.36 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 34,907.94 ล้านบาท ดัชนีปรับตัวขึ้นมาหลังจากที่เมื่อวานปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง จากความกังวลปัญหาด้านการเมือง ในส่วนของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (22 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 1,457.36 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.82 จุด หรือ +0.61% มูลค่าการซื้อขายเพียง 34,907.94 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,457.49จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,438.64 จุด หลังสถานการณ์ความกดดันการเมืองเริ่มผ่อนคลาย แนวโน้มเริ่มกลับมาบวกชัดเจนในวันพฤหัสฯ หน้า

หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 422 หลักทรัพย์ ลดลง 268 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 195 หลักทรัพย์

การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,910.52  ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 216.30 ล้านบาท ในขณะที่สถาบันในประเทศขายสุทธิ -1,457.04 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ -669.78 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

TRUE ปิดที่ 9.25 บาท เพิ่มขึ้น +0.05 บาท หรือ +0.54% มูลค่าการซื้อขาย 3,077,675 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -0.27% มูลค่าการซื้อขาย 1,859,167 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น+0.30 บาท หรือ +3.30% มูลค่าการซื้อขาย 1,651,793  ล้านบาท
IVL  ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.20 บาท หรือ +4.84% มูลค่าการซื้อขาย 1,558,716 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 213.00 บาท เพิ่มขึ้น +7.00 บาท หรือ +3.40%  มูลค่าการซื้อขาย 1,331,308&  ล้านบาท

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการรีบาวนด์กลับขึ้นมาหลังจากที่เมื่อวานที่ปรับลดลงไป สะท้อนให้เห็นว่าแรงขายจากนักลงทุนไม่ได้กดดันตลาดมากนัก  รวมถึงประเด็นการเมืองกรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ไม่ได้ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก อย่างไรก็ตาม ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลจากเรื่องของสถานการณ์ในการเมืองเริ่มผ่อนคลาย และแรงขายของนักลงทุนในต่างประเทศเริ่มลดลง

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนควรซื้อสะสมในช่วงที่หุ้นปรับตัวลดลง หรือถือต่อในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยเน้นหุ้นในกลุ่มก่อสร้าง หุ้นกลุ่มขนส่ง หุ้นกลุ่มอสังหาฯ เช่น ERW, SPALI โดยประเมินแนวรับที่ 1,440 จุด แนวต้านที่ 1,470 จุด

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดี ดัชนี SET INDEX มีโอกาสแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากยังมีปัจจัยให้นักลงทุนต้องติดตาม คือ สถานการณ์การเมืองภายในประเทศในการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภาฯ ในช่วงต้นเดือนพฤจิกายน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนซึ่งคาดว่าจะออกมาไม่ดี

ทางด้าน นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ปรับตัวขึ้น มองว่าเป็นการรีบาวน์ทางเทคนิค หลังเมื่อวานปรับตัวลงแรง ซึ่งวันนี้ตลาดบ้านเรามีการเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกัน ซึ่งน่าจะเกิดจากปัจจัยภายในของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ ในระหว่างการซื้อขายจะเห็นได้ว่ามีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลจากนักลงทุนบางส่วนยังไม่กล้ากลับเข้ามาซื้อภายหลังจากที่มีความกังวล
เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเกี่ยวกับการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งก็ยังสร้างความกดดันให้แก่ตลาดอยู่

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพฤหัสบดีนี้ (24 ต.ค.) คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีกหรือไม่ และการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา ซึ่งมองว่ากลุ่มพลังงาน และอสังหาฯ คาดว่าน่าจะมีทิศทางที่เป็นบวก ทั้งนี้ หากคลายความกังวลในเรื่องของการเมือง คาดว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี หรือหุ้นที่ราคาปรับตัวลงแรง อีกทั้งยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับที่ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,465 จุด

โดยกลยุทธ์การลงทุนในวันพรุ่งนี้ แนะนำนักลงทุนให้ถือ และติดตามปัจจัยที่สำคัญต่อไป โดยยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย และภาพรวมในไตรมาส 4/2556 ประเมินว่าดัชนีฯ มีโอกาสขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,500 จุด ทั้งนี้ ประเมินแนวรับของดัชนีฯ SET INDEX ไว้ที่ 1,440 จุด และประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ 1,465 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,470 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น