xs
xsm
sm
md
lg

DUSS เตรียมโรดโชว์ 9 จังหวัด 24 ต.ค.ถึง 4 พ.ย. คาดเปิดขายไอพีโอในปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โอเชี่ยน คอมเมิรช” เล็งขายหุ้น IPO ภายในปีนี้ เปิดแผนโรดโชว์ 9 จังหวัด 24 ต.ค. ถึง 4 พ.ย.นี้ มั่นใจการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในช่วงนี้ถือว่าเหมาะสม เพราะภาวะตลาดหุ้นดีกว่าช่วงที่ผ่านมา จึงไม่มีความกังวล ส่วนราคาหุ้น IPO นั้นยังไม่ได้กำหนด

นายอุชัย วิไลเลิศโภคา ประธานกรรมการ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ DUSS เปิดเผยว่า บริษัทคาดเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ภายในปีนี้ โดยจะแนะนำข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุน 9 จังหวัด ในวันที่ 24 ต.ค.ถึง 4 พ.ย.นี้

ด้านธุรกิจหลักของโอเชี่ยน คอมเมิรช เป็นผู้นำเข้า ผลิต ประกอบ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับประปาและสุขภัณฑ์ ภายใต้ตรา “DUSS”

ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.25 บาท โดยหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายอุชัย กล่าวว่า การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในช่วงนี้ถือว่าเหมาะสม เพราะภาวะตลาดหุ้นดีกว่าช่วงที่ผ่านมาจึงไม่มีความกังวล ส่วนราคาหุ้น IPO นั้นยังไม่ได้กำหนด เนื่องจากจะต้องรอหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายก่อน แต่ราคาจะมีส่วนลดให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อแน่นอน

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทวางแผนนำไปขยายธุรกิจ ทั้งการปรับปรุงสายการผลิตที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงนำไปลงทุนขยายพื้นที่ในส่วนโรงงานที่จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อใช้ประโยชน์มากกว่าเดิม ซึ่งในส่วนขยายพื้นที่ดังกล่าวจะใช้เงินประมาณ 20 ล้านบาท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังผลิตสินค้าประมาณ 1 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งหากมีการปรับปรุงสายการผลิตเดิม และมีการซื้อเครื่องจักรใหม่จะช่วยทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1.8-2.0 ล้านชิ้นต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจะไปโรดโชว์ให้แก่นักลงทุน 9 จังหวัด ภายในวันที่ 24 ต.ค.ถึง 4 พ.ย.นี้ เพื่อให้ข้อมูลก่อนที่จะเสนอขายหุ้น โดยยืนยันว่า หุ้นของบริษัทจะเป็นบริษัทผู้ผลิตก๊อกน้ำบริษัทแรกที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด mai

นายอุชัย กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปี 53-55 รายได้ของบริษัทเติบโตเฉลี่ยปีละเกิน 20% ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้ และปีหน้าก็จะเติบโตในระดับเกินกว่า 20% เหมือนกับที่ผ่านมา แม้ฐานรายได้ของบริษัทใหญ่ขึ้น แต่ตลาดในประเทศยังสามารถเติบโตได้อีกมาก

โดยช่องทางการจำหน่ายสินค้าในประเทศ ส่วนหนึ่งเป็นการร่วมกับพันธมิตร คือ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL โดยนำสินค้าไปขายในสาขาของ GLOBAL ทุกแห่ง

นอกจากนี้ บริษัทกำลังเจรจากับบริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เพื่อจะนำสินค้าไปขายในสาขา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในต้นปีหน้า

“ปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้าไปประเทศลาว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี แต่สัดส่วนรายได้จากการส่งออกยังน้อยมากประมาณ 5% ของรายได้รวม ซึ่งขณะนี้บริษัทยังไม่ได้เน้นมากนัก เพราะต้องการเน้นตลาดในประเทศให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นก่อน”

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทมีแผนขยายตลาดต่างประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา และอินโดนีเซีย เพื่อทำให้มีช่องทางเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น