“กิตติรัตน์” ตำหนิ “หม่อมอุ๋ย” ไม่รู้เรื่องบัญชีคำนวณขาดทุนจำนำข้าว 4.25 แสนล้าน ชี้เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง พร้อมฝากเตือน “หม่อมอุ๋ย-นักวิชาการ” ต้องระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น ยืนยันตนเองพร้อมรับข้อเสนอแนะของทุกคน ลั่นเดินหน้าโครงการต่อไป
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำจดหมายเปิดผนึกโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลถึงนายกรัฐมนตรี โดยยอมรับว่า ตนเองได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และพร้อมรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดเพื่อนำมาปรับใช้หากมีประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อเกษตรกรอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ ยังคงยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ในปี 2556/2557 เพราะการดำเนินการมีมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเรื่องการขาดทุนโครงการดังกล่าวมูลค่า 425,000 ล้านบาทนั้น ที่มองว่า 100,000 ล้านบาท ไปตกอยู่กับผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรนั้น เชื่อว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร และนักวิชาการ อาจเข้าใจผิดถึงเรื่องตัวเลขทางบัญชีและการบริหารจัดการจริง
ดังนั้น ตนเองจึงขอเตือนให้ระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวเลขดังกล่าว ซึ่งต้องมีความแม่นยำมากกว่านี้ เพราะอาจเกิดปัญหาความเข้าใจผิดได้ นอกจากนี้ ยังยืนว่าวงเงินในการดำเนินการโครงการรับจำนำ 500,000 ล้านบาทนั้น เพียงพอต่อการหมุนเวียน
“จากกรณีที่ท่าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ที่ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนไปแล้ว 4.25 แสนล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขที่คลาดเคลื่อน และมีความเข้าใจผิด โดยอยากฝากไปถึงท่านอดีตรองนายกฯ ว่า จะให้ข้อคิดเห็น หรือมีการเปิดเผยข้อมูลจะต้องมีการทบทวนให้มีความชัดเจนมากกว่านี้”
อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ ปฏิเสธที่จะชี้แจงว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล 2 ปีที่ผ่านมา ที่ใช้เงินไปถึง 6.7 แสนล้านบาท มีผลขาดทุนที่แท้จริงเท่าไร
“ผมไม่ต้องการตอบโต้ ผมรู้ว่านักเศรษฐศาสตร์ไม่ได้เรียนบัญชีมา จึงต้องการให้มีการติดตามตัวเลขเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด” นายกิตติรัตน์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ นายกิตติรัตน์ ปฏิเสธให้ความเห็น โดยระบุเพียงว่า ผมเลิกใส่ใจในการทำงานของคณะกรรมการนโยบายการเงินมานานแล้ว
ทั้งนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว เพราะมีผลขาดทุน 4.25 แสนล้านบาท เงินถึงมือชาวนา 2.1 แสนล้านบาท และตกอยู่ในมือผู้อื่นที่ไม่ใช่ชาวนา 1.15 แสนล้านบาท
ขณะที่คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลตั้งขึ้น สามารถปิดบัญชีได้แต่การดำเนินการในปีแรกเท่านั้น ซึ่งมีผลขาดทุนออกมา 1.3 แสนล้านบาท
