“แสนสิริ” จ่อลดเป้ายอดขายปี 57 เหลือ 3.6-3.7 หมื่นล้านบาท อ้างโตเกินไปต้นทุนบริหารสูง ฉุดกำไรวูบ แถมสร้างไม่ทัน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ เผยยอดขาย 9 เดือน แตะ 4.5 หมื่นล้าน จากเป้าทั้งปี 4.8 หมื่นล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจโรงแรมแบรนด์ ESCAPE ประเดิม 2 แห่งเขาใหญ่-หัวหิน เตรียมเปิดเพิ่มภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะทบทวนเป้ายอดขายในปี 2557 โดยจะตั้งเป้ายอดขายน้อยกว่าปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 48,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 36,000-37,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยอดขายของบริษัทสูงมาก เฉพาะ 9 เดือนของปีนี้สามารถสร้างยอดขายไปแล้ว 45,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) ในปัจจุบันมีจำนวน 60,000 ล้านบาท ในขณะที่งานก่อสร้างตึงมือผู้รับเหมาหายาก หากยอดขายโตมากกว่านี้อาจทำให้การก่อสร้างล่าช้าจนส่งมอบไม่ทันได้
“การที่มียอดขายจำนวนมากก็ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูง เช่น การทำการตลาด ทำโปรโมชันเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้กำไรลดลง โดยในไตรมาสแรกขาดทุน 80 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2 และ 3 คาดว่าจะมีกำไรไตรมาสละ 500 ล้านบาท และไตรมาสที่ 4 ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้ากำไรที่ 3 พันล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน แต่ดูแล้วน่าจะทำได้ต่ำกว่าเพราะการขายคอนโดฯ ก็ต้องใช้เวลาในการโอน” นายอภิชาติกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของไทย ที่ไทยถือเป็นประเทศที่ชาวต่างชาติต้องการมาเที่ยวมากที่สุด ประกอบกับมีนโยบายทั้งจากมาตรการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงมาตรการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยของภาครัฐที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไทยถือได้ว่าเป็นฮับของการท่องเที่ยวระดับโลก ทำให้ธุรกิจโรงแรมยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนที่จะรุกธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นภายใต้แบรนด์ ESCAPE, Sansiri Hotel Collection หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยพัฒนาโรงแรมคาซ่า เดอมาเร่ มาแล้วเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มดำเนินการ 2 แห่งแรก ได้แก่ หัวหิน และเขาใหญ่ มูลค่าการลงทุนรวม 370 ล้านบาท ซึ่งหัวหิน จะเป็นการนำนำโรงแรม คาซ่า เดล มาเร่ มาปรับปรุงใหม่จำนวนทั้งสิ้น 46 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบ 3 สไตล์ ในรูปแบบ Sea, Sand และ Sun ราคาพักคืนละตั้งแต่ 3,500-4,500 บาท หากเป็นช่วงไฮซีซัน ราคาจะอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท/คืน เน้นลูกค้ากลุ่มคนไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% โดยจะเปิดให้บริการในวันที่ 16 ตุลาคม 2556 นี้
ส่วนอีกทำเลคือที่เขาใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ไร่ จากทั้งหมด 50 ไร่ ซึ่งอยูบนพื้นที่เดียวกับโครงการ 23 Degree เป็นอาคารสูง 3 ชั้น ประกอบด้วย ห้องพักแบบดีลักซ์ จำนวน 48 ห้อง และห้องพักในแบบ Pool Villa อีก 6 ห้องพัก รวมทั้ง Escape Pool Villa อีก 1 หลัง ภายใต้ 4 ธีมให้เลือกพักผ่อน ได้แก่ Wood, Earth, Floral และ Forest โดยราคาพักเรตจะใกล้เคียงกับที่หัวหิน มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคนไทย 80% และชาวต่างชาติ 20% โดยจะเปิดตัวในต้นปี 2557
“ธุรกิจโรงแรมต้องใช้ระยะเวลาในการคืนทุนนาน ประมาณ 12 ปี ซึ่งการดำเนินธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ จะเป็นการเสริม หรือเกื้อหนุนธุรกิจอสังหาฯ โดยผู้ที่อยู่คอนโดฯ สามารถมาใช้บริการที่โรงแรมได้คิดค่าบริการส่วนลด”
ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม SIRI กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการพัฒนาโรงแรมภายใต้แบรนด์เอสเคป, แสนสิริ โฮเทล คอลเลคชัน ในอนาคต บริษัทอาจมีการเปิดตัวเพิ่มเติมในเมืองตากอากาศที่มีศักยภาพอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาในจังหวัดที่แสนสิริฯ มีการเปิดตัวโครงการ และเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ดี ซึ่งได้เล็ง จ.ภูเก็ตไว้เป็นลำดับแรก คาดว่าจะเข้าไปดำเนินการได้ในปีหน้า โดยจะเป็นโรงแรมสูงไม่เกิน 7 ชั้น ไม่เกิน 50 ห้องพัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดิน
ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะมีกลุ่มลูกค้าจากอาเซียนรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจโรงแรมมีความคึกคักขึ้นอีก และเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจต่อไป