xs
xsm
sm
md
lg

ก.ย.รายย่อยขายกว่า 2 หมื่น ลบ. หุ้นร่วงหนัก 34 จุด หวั่นสัดส่วนเพดานหนี้สหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยปิดตลาดลบ 34.33 จุด อยู่ที่ระดับ 1,383.16  จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,730.64 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากสหรัฐอเมริกาในเรื่องความกังวลการขยายงบประมาณชั่วคราวออกไป และการปรับสัดส่วนเพดานหนี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (30 ส.ค.) ปิดที่ระดับ 1,383.16 จุด ปรับตัวลดลง -34.33 จุด หรือ -2.42  มูลค่าการซื้อขาย 32,730.64 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,399.27  จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,381.26  จุด ภาพรวมดัชนีอาจปรับตัวลดลงรุนแรงทั้วทั้งภูมิภาค ตามแนวโน้มตลาดหลักที่ส่งผลต่อตลาดทั่วทั้งเอเชีย

หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 153 หลักทรัพย์ ลดลง 611 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 109 หลักทรัพย์

การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศขายสุทธิ 779.86 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ -1,511.15 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,661.85 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปกลับซื้อสุทธิ 3,952.85 ล้านบาท

ทั้งนี้ สรุปยอดการซื้อขายสะสมในช่วงวันที่ 1-30 กันยายน พบว่า สถาบันในประเทศซื้อสุทธิรวม 12,218.92 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิรวม 9,606.01 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิรวม 6,789.63 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิรวม -28,614.56 ล้านบาท

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 2556-30 กันยายน 2556 พบว่า  นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิรวม -106,419.31 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิรวม -4,020.61 ล้านบาท ในขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิรวม 83,486.46 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิรวม 26,953.46 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1.SCB ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ -3.90%  มูลค่าการซื้อขาย 1,683,066 ลบ.
2.PTT ปิดที่ 316.00 บาท ลดลง -10.00 บาท หรือ -3.07% มูลค่าการซื้อขาย 1,426,532 ลบ.
3.KBANK ปิดที่ 175.00 บาท ลดลง -7.00 บาท หรือ -3.85% มูลค่าการซื้อขาย 1,404,631 ลบ.
4.INTUCH ปิดที่ 82.50 บาท ลดลง -1.50 บาท หรือ -1.79% มูลค่าการซื้อขาย 1,335,262  ลบ.
5.ADVANC ปิดที่ 255.00 บาท ลดลง -4.00 บาท หรือ -1.54% มูลค่าการซื้อขาย 1,333,358 ลบ.

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มภาวะหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงรุนแรงในวันนี้ ปัจจัยหลักมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มาจากความกังวลในการขยายงบประมาณชั่วคราวออกไป และการปรับสัดส่วนเพดานหนี้ ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวทำให้ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงในครั้งแรก 115 จุด และลดลงต่อเนื่องมาจนถึง 127 จุด ส่งผลกดดันให้ตลาดในภูมิภาคซึ่งตลาดหุ้นที่สำคัญ คือ ดัชนีตลาดหุ้นนิกเกอิ ปรับร่วงลง 2% ฮั่งเส็ง ปรับตัวลดลง 1.5% โดยเฉพาะตลาดหุ้นในกลุ่มทิป เช่น ฟิลิปปินส์ ที่ปรับตัวลดลงกว่า 3%  ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปรับลดลง 2.4% ส่งผลทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามไปด้วย

ส่วนปัจจัยภายในประเทศที่เป็นประเด็นหลักที่จะต้องติดตามคือ พ.ร.บ.พิจารณางบประมาณแผ่นดิน ที่จะนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณา ซึ่งอาจจะยังไม่มีผลจนกว่าจะผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะตัดสินออกมา อย่างไรก็ดี แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ แนวรับแรกคือ 1,380 จุด ถ้าหลุดแนวรับนี้ไป แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,360 จุด ส่วนแนวต้านจะอยู่ที่ประมาณ 1,400 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น