หุ้นภาคเช้าปรับลงแรงกว่า 54.78 จุด ดัชนีหลุดระดับสำคัญ 1,400 จุด โบรกฯ ประเมินทิศทาง “ฟันดโฟลว์” ยังไหลออก ต่างชาติยังเทขายต่อเนื่อง แต่แรงขายเริ่มเบาลง แนะชะลอการลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะสั้น ส่วนระยะยาวให้รอจังหวะช้อนเก็บของดีราคาลงลึก แต่ไม่ต้องรีบร้อน พร้อมให้กรอบ 1,410-1,455 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (13 มิ.ย.) ดัชนีเปิดภาคเช้าปรับลงแรงกว่า 3% โดยเมื่อเวลา 10.01 น. ดัชนีปรับลงไปที่ 1,378.69 จุด ลดลง 54.78 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -3.82% มูลค่าการซื้อขาย 4,627.37 ล้านบาท หลุดระดับ 1,400 จุดเรียบร้อยแล้ว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (13 มิ.ย.) ปรับลดลงต่อเนื่องทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค และดัชนีดาวโจนส์ ที่ปรับลดลง เช่น ตลาดหุ้นฮ่องกง ที่ปรับลดลง 285.40 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเพื่อประเมินทิศทางเงินทุนต่างชาติ เพราะหากยังมีทิศทางของการอ่อนค่าต่อเนื่อง และยังไม่ทรงตัว เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังต้องมีการเทขายต่อเนื่อง โดยหุ้นหลักที่เสี่ยงต่อการถูกขายออก คือ ธนาคาร สื่อสาร และกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
นักวิเคราะห์ยังได้แนะนำว่า นักลงทุนระยะสั้นควรชะลอการลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะยาวให้รอจังหวะเลือกซื้อของดีราคาถูก พร้อมประเมินแนวรับแรกที่ 1,420 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,410 จุด และประเมินแนวต้านที่ 1,455 จุด
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส มองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามต่างประเทศ นิกเกอิ ของญี่ปุ่นร่วงกว่า 800 จุด ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงกว่า 500 จุด และดาวโจนส์ ของสหรัฐฯ ร่วงกว่า 100 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ พบว่ามีการไหลลงค่อนข้างแรงเช่นกัน โดยวันนี้หุ้นไทยน่าจะหลุด 1,400 จุด เป็นเรื่องเม็ดเงินนอก (Flow) ที่ยังไหลออก พร้อมระบุว่า ยังต้องระวังแรงขาย (Foreign net sell) ที่ยังมีต่อเนื่องไม่หยุด ประเมินว่า เม็ดเงินยังเหลืออีกประมาณ 30% ของเงินไหลเข้า
สำหรับกลยุทธ์ช่วงนี้ หุ้นที่มีพื้นฐานดีหากราคาปรับลงลึกๆ มองเป็นโอกาสที่ซื้อได้ แต่ไม่ต้องรีบร้อน ควรจะรอให้บรรยากาศลงทุนดีขึ้น พร้อมมองว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มขายเบาลงก่อน และค่อยกลับเข้าไปซื้อใหม่อีกรอบ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.17 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,374.92 จุด ลดลง 58.55 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -4.08% มูลค่าการซื้อขาย 11,262.38 ล้านบาท
