ASTVผู้จัดการรายวัน - จับตาเมื่อแบงก์ชาติเล็งควบคุมการซื้อขาย “ทองคำ ออนไลน์” เพื่อป้องกันความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน แม้ทำโบรกเกอร์ทองวิ่งวุ่นยืนยันความบริสุทธิ์ แต่ผู้ลงทุนจะได้ประโยชน์เมื่อสินค้ามีมาตรฐานเดียว ชัดเจนด้านส่งมอบหรือไม่ส่งมอบ แค่วางเงินขั้นต่ำ หรือต้องวางเต็มจำนวน ด้านโบรกฯ เถื่อนได้รับการตรวจสอบ แถมมีผู้ควบคุมที่ชัดเจน ไม่เหมือนในอดีต ไร้ปัญหาให้ปวดหัวตอนร้องเรียน เพราะหาเจ้ามือรับจัดการต่อไม่เจอการวิ่งเข้าออกเป็นว่าเล่นของเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ(Fund Flow)
ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2556 สร้างความผันผวนให้แก่ตลาดเงิน และตลาดทุนโกลาหลไปตามกัน นั่นรวมถึงการแข็งค่าและอ่อนค่าอย่างหนักของค่าเงินบาทด้วย เรื่องดังกล่าวหวยมาออกที่...ตลาดค้าทองคำ เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หันมาเพ่งเล็ง และจะเข้ามาวางกฎระเบียบซื้อขายทองคำให้โปร่งใสมากขึ้น
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เผยว่า อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการวางกฎระเบียบ เพื่อป้องกันการใช้ช่องทางการซื้อขายทองคำเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากได้ติดตามการซื้อขายรูปแบบต่างๆ แล้ว พบว่า การซื้อขายทองคำที่มีการชำระราคาในทันที (spot) ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่คอยควบคุม อีกทั้งตัวเลขการซื้อขายทองคำมีจำนวนน้อยกว่าตัวเลขการขอซื้อขายเงินตราต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
โดยล่าสุด ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลเรื่องนี้ ซึ่งมี นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เป็นประธาน และจะมีการประชุมในเดือนตุลาคมนี้ ขณะเดียวกัน เรื่องดังกล่าวทำให้บรรดาร้านทองคำรายใหญ่ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจในการทำธุรกิจที่ไม่ได้คิดจะหวังแค่เก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ ด้วยสินค้ายอดนิยมอย่าง Gold Online ทำให้บริษัทจำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งบาทแข็ง และบาทอ่อนค่า ด้วยการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนผ่านตลาด Forward กับธนาคารพาณิชย์ ทั้ง 2 ขาเพื่อรองรับปริมาณการซื้อขายของลูกค้า จนทำให้ตัวเลขการขอซื้อขายเงินตราต่างประเทศสูงกว่าตัวเลขซื้อขายทองคำ รวมทั้งยื่นข้อเสนอจัดตั้งศูนย์กลางตลาดค้าทองคำในประเทศขึ้นเพื่อลดทอนผลกระทบที่มีต่ออัตราแลกเปลี่ยนของไทย ซึ่งยังมีความซับซ้อน จนหลายฝ่ายคาดว่าคงไม่ได้เกิดขึ้นโดยเร็ววัน
อย่างไรก็ตาม...ก็มีความชัดเจนบางเรื่องจะเกิดขึ้นในตลาดค้าทองคำไทย ...โดยเฉพาะกับผู้บริโภค หรือผู้ลงทุน นั่นคือ Gold Online จากที่ผ่านมาหาเจ้าภาพที่จะเข้ามาควบคุมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันไม่ได้ อีกทั้งยามเกิดปัญหา ผู้ลงทุนไม่สามารถร้องเรียนความเป็นธรรมได้ถูกทาง มีจำนวนไม่น้อยวิ่งไปวนมายังหลายหน่วยงานเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับการตอบรับเท่าควร
เคยมีผู้ลงทุนบางรายออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ ว่า ได้ร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่ก็โดนแนะนำให้ไปร้องเรียนต่อ ก.ล.ต. เพราะเป็นเรื่องของการลงทุน แต่พอร้องเรียน ก.ล.ต. ก็พบว่า ก.ล.ต.ไม่สามารถเข้ามาจัดการได้ เนื่องจากไม่ใช่ Gold Futures ที่ซื้อขายอยู่ในตลาด TFEX บ้างก็แนะนำให้ไปร้องเรียนต่อสมาคมค้าทองคำ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงแบงก์ชาติ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ หรือความช่วยเหลือ
“บางส่วนเราต้องบอกว่าเป็นเพราะนิสัยของนักลงทุน ตอนที่เขาเชิญชวนเข้าลงทุนเทรดทองคำ นักลงทุนบางรายหลงเชื่อว่าอยากจะได้กำไรจำนวนมากด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่าโกลด์ ฟิวเจอร์ส มีเวลาเทรดที่มากกว่า เมื่อได้กำไรก็จบ ก็พอใจ แต่พอราคาทองคำลดลงจนขาดทุน นักลงทุนยังฝืนถือต่อ เขาก็เรียกเงินประกันเพิ่ม เมื่อราคาลดลงไปเรื่อยๆ ก็ขาดทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การเรียกเงินประกันก็มากขึ้น นำไปสู่ความเสียหาย ความไม่พอใจ นักลงทุนบางคนไม่ใส่ใจดูให้ดีก่อนว่ากำลังเลือกลงทุนอยู่กับอะไร มันไม่มีหน่วยงานที่ควบคุมชัดเจน ไม่เหมือนโกลด์ ฟิวเจอร์ส ที่เทรดใน TFEX จะมีตลาด TFEX คอยดูแล มี ก.ล.ต.คอยควบคุม ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ และเราจะพบกับเรื่องแบบนี้ก็เฉพาะตอนที่นักลงทุนรายนั้นขาดทุน หรือเสียหายหนัก หากเขายังเทรด และได้กำไรต่อไปเรื่อยๆ เขาก็ไม่โวยวาย”
แหล่งข่าววงการทองคำรายหนึ่งให้ความเห็น พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ต้องแยก Gold Online ออกมาเป็นอีกเครื่องมือการลงทุนให้ชัดเจนมากขึ้น ปัจจุบัน Gold Online คือการซื้อขายทองคำแท่งในตลาดทันที (spot market) และในหลักการต้องมีการส่งมอบทองคำจริง แต่ในหลักปฏิบัติกลับมีทั้งส่งมอบทองคำจริง และไม่ส่งมอบทองคำ โดยให้แต่เพียงส่วนต่างกำไร หรือเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเมื่อขาดทุน
“ตลาด Gold Spot นั้นมีการเทรดมากกว่า Gold Futures เป็น 10 เท่า มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ยอดทองคำที่ ธปท.บอกว่ามีน้อย เมื่อเทียบกับยอดตัวเลขขอซื้อเงินตราต่างประเทศ ก็มาจากการเทรด Gold Spot ด้วยเช่นกัน นักลงทุนหลายรายเทรด Gold Spot หลายๆ รอบใน 1 วัน และสุดท้ายจะเป็นเพียงการหักลบส่วนต่าง กำไร หรือขาดทุน ออกมาเป็นผลลัพธ์ให้ต้องจ่ายเพิ่ม หรือรับกำไรจากการลงทุนเท่านั้น โบรกฯ ทอง ไม่ได้คิดจะหากำไรจากการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนอย่างที่แบงก์ชาติกังวลเพราะมันน้อยมาก แต่จะได้ค่าคอมมิชชันจากคำสั่งซื้อขาย เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ/ขายหลายรอบใน 1 วัน ตามปกติเมื่อจบต้องมีการส่งมอบทองคำจริง มีการชำระเงินเต็มจำนวน แต่บางส่วนไม่ใช่ มันไม่มีการชำระเต็มจำนวน มันเป็นเพียงการวางเงินประกันขั้นต่ำเหมือนโกลด์ ฟิวเจอร์ส และรับรู้เพียงผลลัพธ์ผ่านบริการรับฝากทองคำที่ช่วยกล่าวอ้างได้ เมื่อลูกค้าเทรดเสร็จ ก็ฝากทองคำไว้กับร้าน แต่พอเห็นโอกาสทำกำไรจึงขายทองคำที่ฝาก เพราะไม่มีความชัดเจนในระยะเวลาส่งมอบ”
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า Gold Spot หรือ Gold Online ไม่ควรถูกนำมารวมอยู่ในการซื้อขายทองคำแท่ง เพราะเมื่อหลายแห่งไม่ได้ให้ลูกค้าวางเงินเต็มจำนวนเพื่อซื้อทองคำ แต่วางเพียงเงินประกันขั้นต่ำ มันจึงไม่ใช้การค้าขายสินค้าโดยทั่วไป หรือปกติ แต่เป็นการลงทุนที่ทำกำไรจากส่วนต่างของราคามากกว่า และเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลขึ้นมาก็ควรดูแลในเรื่องดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ Gold Online ไม่ได้มีเพียงร้านค้าทองคำรายใหญ่เปิดให้บริการเพียงฝ่ายเดียว ยังมีพวกแอบอ้าง หรือกลุ่มมิจฉาชีพ (โบรกเกอร์เถื่อน) ตั้งบริษัทเพื่อเทรด Gold Online หลอกลวงประชาชนอยู่จำนวนมาก บางแห่งถึงขนาดชักชวนไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ ลงทุนในทองคำน้ำหนักออนซ์ ผ่านการกำหนดรูปแบบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินต่างประเทศที่ตายตัว ซึ่งสูงกว่าปกติ แต่เงินลงทุนต่ำกว่า เช่น ใช้เพียงแค่ 1,000 ดอลลาร์ เพื่อลงทุนในทองคำ 100 ออนซ์ มีการโฆษณาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงถึง 100 เท่า เรื่องนี้หน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องควรให้ข้อมูลแก่ประชาชนมากขึ้น
“ความน่าเชื่อถือเพราะชื่อเสียงบริษัทก็มีส่วนสำคัญ แต่เราก็พบว่ามีบางแห่งใช้ชื่อบริษัทใกล้เคียงกับร้านทองขนาดใหญ่ แต่ผู้จดทะเบียนจัดตั้งกลับไม่มีการเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ก็ควรมีการตรวจสอบ ที่ผ่านมา เวลาเกิดความเสียหาย และมีการฟ้องร้องขึ้นศาลก็พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ด้วยเช่นกัน”
ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า Gold Online ซึ่งเปิดซื้อขาย 24 ชม. แบบไม่มีการส่งมอบ และตัดซื้อขายทันที ก็คล้ายกับการเล่นสูง เล่นต่ำ ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงินของ ปปง. เพราะถือว่ามีความผิดฐานทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จุดสำคัญ คือ การซื้อขาย Gold Online ในตอนกลางคืนที่แท้จริงแล้วหากลงทุนในช่วงดังกล่าวจะต้องมีการส่งมอบทองคำจริงๆ ให้แก่กันเท่านั้น แต่ก็มีโบรกเกอร์ และผู้ค้าทองคำหัวใสบางรายไม่ยอมทำการส่งมอบทองคำจริงๆ แก่ลูกค้า
“ตลาดภาคกลางคืนซึ่งเป็นตลาดของต่างประเทศ ราคาทองคำจะมีความผันผวนเหวี่ยงตัวขึ้นลงแรงในบางวัน ซึ่งอาจถึง 20-30 เหรียญ/ออนซ์ โบรกเกอร์จะได้รายได้จากค่าคอมมิชชัน และผลแตกต่างในการทำกำไรจากค่าเงินบาท/เหรียญ เราจะเห็นได้จากตอนเช้าช่วงที่ตลาดหุ้นและธนาคารพณิชย์ยังไม่เปิดให้บริการ อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์กับบาทไทยจะมีการเคลื่อนไหวที่แรง เพราะเกิดจากการซื้อขายเงินบาท และเงินดอลลาร์หสรัฐจำนวนมากในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จึงต้องติดตามดูว่า แบงก์ชาติ ที่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้วจะกล้าฟันธงหรือไม่ ส่วนจะเข้าไปตรวจสอบได้จากที่ไหนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมันมีประกาศโฆษณาอยู่บนหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับเงินๆ ทองๆ แทบทุกเล่ม มีการประกาศที่ชี้ชัดเลยว่า Gold Online แบบไม่มีการส่งมอบ และที่หน้าร้านค้าทองหลายแห่งก็ขึ้นป้ายแบบนั้น”
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการลงทุนทองคำในประเทศกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่อีกแห่งของโลก ปริมาณการนำเข้าทองคำแท่ง 7 เดือนแรกปีนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 327,000 ล้านบาท เทียบกับการส่งออกในงวดเดียวกันมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดนำเข้าทองคำแท่งปี 2555 มีมูลค่าประมาณ 385,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการสำรวจตัวเลขการนำเข้าทองคำ (ไม่รวมรูปพรรณ) โดย ธปท. พบว่า ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา จนถึงสิ้นเดือน ก.ค.พบว่า ประเทศไทยมีการนำเข้าทองคำรวม 47,552.96 ล้านดอลลาร์ และส่งออก หรือนำออกนอกประเทศรวม 20,500.41 ล้านดอลลาร์ เท่ากับว่าในช่วงเวลา 4 ปีเศษ ประเทศไทยมียอดการนำเข้าทองคำสุทธิ 27,052.55 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าทองคำที่อยู่ในรูปของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ ธปท. กว่า 4 เท่า โดยปัจจุบัน ธปท. มีเงินสำรองที่อยู่ในรูปทองคำรวมมูลค่าประมาณ 6,559.95 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน การซื้อขาย Gold Futures อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 ส่วนการซื้อขายทองคำในตลาดทองคำทั่วไปอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. เงินตรา แต่ Gold Online ยังไม่มีความชัดเจน ล่าสุด เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุว่า เป็นอำนาจการกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้คณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการเกี่ยวกับการปฏิบัติการซื้อขายอัญมณีที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ...ซึ่งคงต้องรอดูว่า ผู้มีบทบาทควบคุมที่แท้จริง ปรากฏตัวออกมาให้นักลงทุนเข้าถึงได้เมื่อไร ... หรือจะเป็นเพียงแค่ข่าว