xs
xsm
sm
md
lg

บางกอก เดค-คอน เทรดพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บางกอก เดค-คอน หรือ BKD ผู้ให้บริการรับเหมาตกแต่งภายในแบบครบวงจร บริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ลำดับที่ 10 ของปี เริ่มซื้อขาย 25 กันยายนนี้

น.ส.ปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทบางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD จะเข้าจดทะเบียน และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 25 กันยายน 2556 โดย BKD ดำเนินธุรกิจให้บริการตกแต่งภายในอาคาร ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ราชการ เป็นต้น โดยรับจัดหาวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ ดูแลงานก่อสร้าง และติดตั้งจนแล้วเสร็จ ผลงานของบริษัทที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการโรงแรมอมารีหัวหิน โครงการอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โครงการห้องประชุมและอาคารสำนักงานของกลุ่มบริษัท ปตท. เป็นต้น

สำหรับ BKD มีทุนชำระแล้ว 350 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 520 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 16-18 กันยายน 2556 ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 270 ล้านบาท โดยมีบริษัท บางกอก ซิตี้ แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ BKD เปิดเผยว่าบริษัทจะนำเงินที่ระดมทุนได้ในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง และขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้า (AEC) พร้อมมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจบริการรับเหมาตกแต่งภายในครบวงจรของประเทศ
ทั้งนี้ BKD มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวรัตนสุวรรณชาติ ถือหุ้น 73.57% คุณอรรณพ ลิ้มประเสริฐ ถือหุ้น 2.86% คุณสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ถือหุ้น 2.86% และคุณวรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล ถือหุ้น 2.86% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 11.54 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัท 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2555 ถึง 30 มิถุนายน 2556) หลังหักรายการพิเศษ หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.13 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น