ศาลปกครองกลางฯ สั่งบังคับ กทพ. ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษโครงข่ายในเขตเมืองให้ BECL ระหว่างวันที่ 13 พ.ย.35 ถึง 2 ก.ย.36 เป็นเงินพร้อมดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 5,021.1 ล้านบาท อีกทั้งให้ชำระดอกเบี้ยจนกว่าจะจ่ายหนี้ครบถ้วน ขณะ กทพ. สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางได้ภายในวันที่ 13 ต.ค.56
นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL แจ้งว่า ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 51 ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (พทพ.) ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษโครงข่ายในเขตเมืองที่ BECL พึงได้รับระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 เป็นเงิน
1,974.60 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระให้บริษัทเสร็จสิ้น ซึ่ง กทพ. มีหนังสือถึงบริษัทปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดย กทพ.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลการ และบริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการนั้น
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษายกคำร้องของ กทพ. คดีหมายเลขแดงที่ 1462-1463/2556 ซึ่งขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และได้มีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยให้ กทพ.ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษโครงข่ายในเขตเมืองที่บริษัทฯ พึงได้รับระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 ให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวนเงิน 1,974.6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา คำนวณถึงวันที่บริษัทฯ ยื่นคำร้องต่อศาล คือ วันที่ 19 ตุลาคม 2554 เป็นเงิน จำนวน3,046.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษพร้อมดอกเบี้ย เป็นจำนวนทั้งสิ้น5,021.1 ล้านบาท และให้ กทพ. ชำระดอกเบี้ยตามสัญญาจนกว่า กทพ. จะชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ เสร็จสิ้น ทั้งนี้ กทพ. สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางได้ภายในวันที่ 13 ตุลาคม 2556
นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL แจ้งว่า ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 51 ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (พทพ.) ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษโครงข่ายในเขตเมืองที่ BECL พึงได้รับระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 เป็นเงิน
1,974.60 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระให้บริษัทเสร็จสิ้น ซึ่ง กทพ. มีหนังสือถึงบริษัทปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดย กทพ.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลการ และบริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการนั้น
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษายกคำร้องของ กทพ. คดีหมายเลขแดงที่ 1462-1463/2556 ซึ่งขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และได้มีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยให้ กทพ.ชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษโครงข่ายในเขตเมืองที่บริษัทฯ พึงได้รับระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2536 ให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวนเงิน 1,974.6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามสัญญา คำนวณถึงวันที่บริษัทฯ ยื่นคำร้องต่อศาล คือ วันที่ 19 ตุลาคม 2554 เป็นเงิน จำนวน3,046.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางพิเศษพร้อมดอกเบี้ย เป็นจำนวนทั้งสิ้น5,021.1 ล้านบาท และให้ กทพ. ชำระดอกเบี้ยตามสัญญาจนกว่า กทพ. จะชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ เสร็จสิ้น ทั้งนี้ กทพ. สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางได้ภายในวันที่ 13 ตุลาคม 2556