รถดับเพลิงฉาวจอดตายท่าเรือแหลมฉบัง รอปิดฉากหรือเก็บทำลายซาก

ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถดับเพลิงฉาว ยังจอดตายสนิทอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังศาลฎีกาจำคุก ประชา มาลีนนท์ และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ปิดฉากจริงหรือรอเก็บซาก

วันนี้ (11 ก.ย.) หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ตัดสินเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถดับเพลิง 315 คัน และเรือดับเพลิง 30 ลำ มูลค่า 6,800 ล้านบาท มีการฮั้วและทุจริต โดยจำคุกนายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย จำนวน 12 ปี และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. จำนวน 10 ปี

ผลการตัดสินทำให้ กทม. ในฐานะคู่สัญญา ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต้องการยกเลิกสัญญาไม่รับซากรถ และเรือดับเพลิง ที่ส่งเข้ามากองไว้ที่ท่าเรือสินค้า ซี 2 ภายในท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ ชลบุรี โดยต้องการให้บริษัทสไตเออร์ เดมเลอร์พุก สเปเชี่ยล ฟาห์รซอย จำกัด ประเทศออสเตรีย รับคืนกลับไป

ทั้งนี้ หากคณะอนุญาโตตุลาการยกเลิก ผลจากกรณีนี้ ทำให้ กทม.ได้เปรียบเป็นประโยชน์ ที่ไม่ต้องยอมรับการซื้อขายรถ และเรือดับเพลิงฉาวในครั้งนี้ ก็จะได้รับเงินคืนทั้งหมด แต่หากกทม.แพ้ รถและเรือดับเพลิงก็จะตกเป็นของ กทม. ซึ่งเท่ากับ กทม.เสียเปรียบ เนื่องจากรถและเรือดับเพลิงจอดท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อรอการตัดสินคดีความเกือบ 10 ปี ทั้งตากแดดตากลม เป็นซาก ทั้งยางรถยนต์ เครื่องยนต์ อุปกรณ์ที่ในการดับเพลิง ล้วนแต่อยู่ในอาการเสื่อมสภาพทั้งสิ้น จนไม่น่าจะใช้การได้ ถ้าจะใช้ก็อาจต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมอีกไม่ใช่น้อย