ตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา หอบเอกสารวิ่งโร่ร้องเรียน กรณี “แสนสิริ” โอนถนนทางเข้า-ออกโครงการ โดยไม่แจ้ง หรือขอความเห็นชอบจากเจ้าของร่วม หลังทราบเรื่อง-ข้อเท็จจริงผ่านเอกสารชี้แจงของบริษัท แนเชอรัล พาร์คฯ โดยระบุถึงการใช้ทางสาธารณะประโยชน์หน้าโครงการดีคอนโด รามอินทรา เป็นทางเข้าออกร่วม ด้าน แสนสิริ ยันไม่เคยมีการระบุว่าถนนด้านหน้าโครงการเป็นพื้นที่ของโครงการหรือเจ้าของร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ทางแนเชอรัล พาร์คฯ แจงการดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ละเมิดสิทธิพื้นที่ส่วนบุคคล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้อพิพาทปัญหาการยกกรรมสิทธิ์ที่ดินทางเข้าออกโครงการดีคอนโด รามอินทรา ให้เป็นถนนสธารณะ หว่างนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งยังเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้ข้อสรุปจากทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้น ล่าสุด ตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดังกล่าว ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อหนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการรายวัน” พร้อมนำหลักฐาน แผ่นพับ เอกสารใบโฆษณาเสนอขายโครงการ และเอกสารแนบท้ายสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด รวมถึงแผนผังที่ตั้งโครงการประกอบการร้องเรียน
โดยสาระสำคัญที่ตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา กล่าวหาว่า บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้กระทำโดยพลการในการโอนที่ดินอันเป็นพื้นที่ถนนทางเข้า-ออกโครงการอาคารชุดดังกล่าว ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกเพียงเส้นทาง ให้เป็นทางสาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกับโครงการอื่นอีก 1 โครงการ ส่งผลให้เจ้าของร่วม และผู้พักอาศัยในโครงการดีคอนโด รามอินทรา เสียประโยชน์โดยตรง
ผู้แทนนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา กล่าวว่า ตามเอกสารโฆษณาขายโครงการดีคอนโด รามอินทรา ของ แสนสิริ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า โครงการดังกล่าวมีที่ตั้งติดถนนรามอินทรา (มิใช่ติดทางสาธารณประโยชน์ที่ใช่ร่วมกันกับที่ดินอื่น) ทำให้ผู้ซื้อโครงการดังกล่าวทุกคนรับทราบ และเข้าใจมาโดยตลอดว่า โครงการดีคอนโด รามอินทรา มีที่ตั้งของโครงการติดถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. และสิ่งอำนวยความสะดวก การก่อสร้างถนนทางเข้าออกผิวจราจร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนสวนหย่อม ต้นไม้ และรั้วกันทาง ล้วนเป็นเงินลงทุนในโครงการ
อย่างไรก็ตาม บริษัท แสนสิริ ได้แอบนำเอาพื้นที่ซึ่งเป็นถนนทางเข้า-ออกโครงการโอนเป็นทางสาธารณะ โดยไม่เคยบอก ไม่เคยแจ้ง ไม่เคยขออนุญาตต่อเจ้าของร่วมที่ซื้อ และจะซื้อโครงการแต่อย่างใด ว่า ถนนทางเข้า-ออกดังกล่าวมิใช่ที่ดินของโครงการ หรือจะโอน หรือได้มีการโอนพื้นที่ถนนทางเข้า-ออกโครงการ ให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ไปแล้ว โดยกลุ่มเจ้าของร่วมโครงการดีคอนโดฯ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2556 หลังจากที่พนักงานลูกจ้างของเจ้าของที่ดินโครงการข้างเคียง ได้มารื้อทำรายรั้ว และถอนต้นไม้ของทางโครงการ เพื่อเปิดเป็นทางเข้าออกของโครงการข้างเคียงอีกทางหนึ่ง
สำหรับ โครงการข้างเคียงดังกล่าวมีทางสาธารณประโชยน์เป็นทางเข้าออกอยู่แล้วคือ ซอยรามอินทรา 47 และในเวลาต่อมา เจ้าของร่วมโครงการดีคอนโดฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวจากเอกสาร จากบริษัทเนเชอร์รัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ว่า จะดำเนินการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เป็นอาคารสูง 23 เมตร 1 อาคาร จำนวน 212 ยูนิต บนที่ดินของ บริษัท เนเชอร์รัล พาร์คฯ โดยจะใช้ทางสาธารณประโยชน์หน้าโครงการดีคอนโด รามอินทรา เป็นทางเข้าออกร่วมกัน
“ดังนั้น ลูกค้า และเจ้าของร่วมโครงการดีคอนโดฯ ซึ่งเป็นลูกค้า แสนสิริ จึงได้รับทราบความจริงว่า แสนสิริ ได้แอบนำที่ดินพื้นที่ถนนของโครงการดีคอนโดฯ จำนวน 92 ตารางวา อันเป็นทางเข้าออกด้านหน้าโครงการฯ และเป็นถนนเข้า-ออกเพียงแห่งเดียวของโครงการฯ โอนให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยไม่มีเจ้าของร่วมโครงการอาคารชุดดีคอนโด รามอินทรา ผู้ใดรับทราบมาก่อน”
ขณะที่นายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการ และการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า แสนสิริ ได้ยกพื้นที่ด้านหน้าโครงการดีคอนโด รามอินทรา รวมทั้งสวนหย่อมในบริเวณด้านหน้าเป็นสาธารณะตั้งแต่ พ.ศ.2554 และไม่เคยมีการระบุว่าถนนด้านหน้าโครงการเป็นพื้นที่ของโครงการ หรือเจ้าของร่วมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอคำชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น จากบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กว่า 1 สัปดาห์ ล่าสุด บริษัทฯได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรณีคำถามเกี่ยวกับพื้นที่ทางเข้าคอนโดมิเนียม พาร์ค รามอินทรานั้น บริษัท แนเชอรัล พาร์คฯ ขอเรียนชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้รับใบอนุญาตในการเชื่อมเข้าออกโครงการกับทางสาธารณะด้านหน้าโครงการจากหน่วยงานราชการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น บริษัทฯ ไม่ได้ละเมิดสิทธิพื้นที่ส่วนบุคคลอื่นใด
ล่าสุด แสนสิริ ได้ส่งหนังสือเชิญคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดโครงการดีคอนโด รามอินทรา และลูกบ้านโครงการดังกล่าว ให้เดินทางไปที่อาคารสิริภิญโญ เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นร่วมกันในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ในเวลา 09.00 น.