ตลท. ยอมรับทั่วโลกจับตาผลสรุป “คิวอี” เตือนนักลงทุนระวังความผันผวน ไม่การันตีเงินไหลเข้ารอบนี้จะอยู่ยาวหรือไม่ แต่ไม่สามารถทดแทนแรงขาย 1 แสนล้าน ตั้งแต่ต้นปี 56 ส่วนประเด็นหุ้นร่วงหนัก 16.00 น. เกิดจากตลาดหุ้นไทยเปิดนานกว่าเพื่อนบ้าน 1 ชม. ทำให้ต่างชาติแห่เข้ามาเทรด เมื่อมีข่าวลบทางยุโรปก็มักจะเทขาย เผยเตรียมปรับกลยุทธ์ใหม่ลดความผันผวน โดยเพิ่มจำนวนนักลงทุนให้มากขึ้น เพื่อให้มีสภาพคล่องในตลาดเพิ่มขึ้น และป้องกันการชี้นำตลาด
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังจับตามองผลการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด วันที่ 17-18 กันยายน 2556 นี้ เกี่ยวกับการตัดสินใจในการทยอยลดขนาดมาตรการอัดฉีดวงเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวน
“แม้ขณะนี้จะมีเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะเป็นในระยะยาวหรือไม่ และไม่สามารถทดแทนการขายของนักลงทุนต่างชาติ ตั้งแต่ต้นปีขายออกไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท”
นายภากร มองว่า ตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ขานรับข่าวนายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ขอถอนตัวในการชิงเก้าอี้ประธานเฟด ซึ่งแนวทางของนายซัมเมอร์ส มีนโยบายที่จะลดขนาด QE ลง ทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดยังใช้นโยบายผ่อนคลายต่อเนื่องไปอีก
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเฟดจะยังไม่สามารถลดขนาด QE ลงได้มาก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ดังนั้น จึงต้องจับตาผลการประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด
นายภากร ยอมรับว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2556 ตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวลดลงมาก เหมือนกันตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ที่ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่ได้แยกแยะพื้นฐานเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ทั้งที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี ดังนั้น จึงให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จัดทำบทวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเศรษฐกิจไทยกับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
นายภากร ยังกล่าวด้วยว่า ได้มีการติดตามข้อมูลถึงการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงเวลา 16.00 น.ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับลดลงในช่วงเวลาดังกล่าวว่า ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด และมีความเป็นไปได้สาเหตุที่หุ้นปรับลงน่าจะเกิดจากตลาดหุ้นไทยเปิดทำการนานกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อได้ข้อมูลข่าวสารจากทางฝั่งยุโรปในเชิงลบ ก็จะมีการเทขายหนักในตลาดหุ้นไทย ดังนั้น ตลท.จึงจะเพิ่มจำนวนนักลงทุนให้มากขึ้น เพื่อให้มีสภาพคล่องในตลาดเพิ่มขึ้น และป้องกันการชี้นำตลาด