สมาคมนายหน้า เล็งส่งหนังสือตื๊อรัฐเร่งรัฐคลอด พ.ร.บ.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ พร้อมนำเสนอสาระสำคัญ กม.ควบคุมนายหน้า และคุ้มครองผู้บริโภค ร้องขอขึ้นทะเบียนนายหน้าการสอบใบอนุญาต พร้อมทั้งกำหนดคุณสมบัติ จรรยาบรรณ และบทลงโทษ เชื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ และส่งเสริมให้เกิดการซื้อ-ขายบ้านมือสองผ่านนายหน้าฯ ลดปัญหา และความเสียหายของผู้บริโภค
นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า มีโอกาสพบกับ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในงานสัมมนาเรื่อง “พลิกวิกฤต สร้างโอกาส รับมือเศรษฐกิจไทยในอนาคต” จึงถือโอกาสนำเสนอให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของการออก พ.ร.บ.นายหน้าอสังหาฯ โดยแจ้งว่า ที่ผ่านมาการทำงานของนายหน้าอสังหาฯ เป็นไปอย่างไม่มีระเบียบเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายออกมาบังคับ ซึ่งรมช.คลัง ได้เห็นชอบด้วยว่าควรจะมีกฎหมาย และให้ทางสมาคมฯ ทำหนังสือส่งเรื่องนี้เข้าไปให้ทางรัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการนำเสนอโดยวาจาแต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการผลักดันให้เห็นความสำคัญของการมีกฎหมายดังกล่าว
“ขณะนี้ทางสมาคมฯ ได้ร่างหนังสือเพื่อยื่นให้แก่กระทรวงการคลังพิจารณาออก พ.ร.บ.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากการออกกฎหมายนั้นต้องผ่านการพิจารณาหลายขั้นตอน แต่มั่นใจว่าหากมี พ.ร.บ.นายหน้าฯ ออกมาบังคับใช้ จะช่วยให้ธุรกิจบ้านมือสองมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากจะทำให้การทำงานของนายหน้าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และผู้บริโภคจะเกิดความไว้วางใจนายหน้าที่ได้มาตรฐานตามกฎหมายเหมือนกับอาชีพอื่นๆ ที่ต้องมีใบอนุญาตการทำงาน”
นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า ความสำคัญของ พ.ร.บ.นายหน้าฯ นอกจากจะคุ้มครอง และช่วยให้ประชาชนซื้อ-ขายบ้านมือสองผ่านนายหน้ามากขึ้นแล้ว กฎหมายดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่อยู่ในอาชีพนี้มีจรรยาบรรณ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายได้รับความคุ้มครองปัญหาต่างๆ ก็จะลดลง
อย่างไรก็ตาม สาระสำคัญของกฎหมายที่จะยื่นในครั้งนี้ ได้มุ่งเน้นไปถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องออก พ.ร.บ.นายหน้าฯ เพื่อควบคุมการทำงานของนายหน้าทุกคนในประเทศไทย รวมทั้งการกำหนดคุณสมบัติของนายหน้าออกเป็นกลุ่ม ซึ่งสาเหตุที่ต้องแบ่งนายหน้าเป็นกลุ่มเพื่อจะได้ไม่ลิดรอนสิทธิของผู้ที่ไม่ได้จบหลักสูตรใดๆ แต่ต้องการทำอาชีพนายหน้าฯ นอกจากนี้แล้ว ยังมีเรื่องกฎกติกา และจรรยาบรรณในการทำงาน รวมทั้งบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย เชื่อว่าหากมี พ.ร.บ.นายหน้าแล้วจะสามารถบังคับ และควบคุมให้ผู้ที่ทำอาชีพนี้มีจรรยาบรรณ และจะทำให้ผู้ที่เข้ามาสู่อาชีพนายหน้ามีมาตรฐานมากขึ้น
โดยที่ผ่านมาแม้จะไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมการทำงาน แต่ทางสมาคมฯ พยายามพัฒนาวิชาชีพของนายหน้าให้ดีขึ้น เช่น การมีหลักสูตรต่างๆ สำหรับพัฒนาความรู้นายหน้าฯ รวมทั้งการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับธุรกิจนายหน้าฯ นอกจากนี้ ยังได้มีความพยายามควบคุมเฉพาะนายหน้าเป็นสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อมิให้ทำความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า แม้ว่าบทบาทของสมาคมฯ จะทำได้ดีก็ตามแต่ถ้ามีกฎหมายออกมาบังคับใช้เชื่อว่าจะสามารถช่วยพัฒนาอาชีพได้ดีกว่านี้ เพราะกฎหมายจะบังคับใช้กับนายหน้าทุกคนทั่วประเทศ
