“แบงก์ ออฟ ไชน่า” เปิดตัวสินเชื่อบ้าน รับทั้งปล่อยกู้ใหม่-รีไฟแนนซ์ ชูดอกเบี้ยลดตามระยะเวลาผ่อน คาดยอดแตะ 5 พัน ใน 3 ปี
นายพาน ชินหยวน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารแบงก์ ออฟ ไชน่า จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายบริการทางการเงินให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยให้ครบวงจรมากขั้น โดยล่าสุด เปิดตัวบริการสินเชื่อ และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ เนื่องจากเห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนระดับกลาง โดยมีจุดเด่นที่ระยะเวลาอนุมัติรวดเร็ว และเสนอดอกเบี้ยในรูปแบบที่ความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ ธนาคารยังอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเปิดสาขาเพิ่มอีก 20 แห่ง ซึ่งหากได้รับอนุมัติก็จะทยอยเปิดเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา และจะร่วมกับพันธมิตรในการหาช่องทางในการบริการเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ธนาคารได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ในการชำระค่างวดผ่านสาขาทุกแห่ง
น.ส.พรพิมล ปฐมศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเพื่อบุคคลทั่วไป กล่าวว่า จุดเด่นของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร คือ การคิดอัตราดอกเบี้ยรูปแบบใหม่ เน้นการประหยัดระยะยาว โดยดอกเบี้ยจะลดลงตามระยะเวลาที่ผ่อนจึงไม่ต้องทำรีไฟแนนซ์ในอนาคต มียอดผ่อนต่อเดือนต่ำ สามารถผ่อนชำระเพิ่มเติมได้ไม่มีค่าปรับ
ส่วนสินเชื่อรีไฟแนนซ์มีรูปแบบให้เลือก 2 แบบ แบบดอกเบี้ยต่ำปีแรก โดยปีแรกดอกเบี้ย 3.5%(MLR-3.5%) ปีที่สอง 5.6% และปีที่สาม 6.5% รวมเฉลี่ย 3 ปีดอกเบี้ย 5.1% และแบบยิ่งผ่อนยิ่งถูก ซึ่งลกูค้าไม่จำเป็นต้องรีไฟแนนซ์หลายรอบ
ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยแตะระดับ 5,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยสัดส่วนระหว่างสินเชื่อปล่อยใหม่ และรีไฟแนนซ์อยู่ในระดับใกล้เคียงกันคือ 50 : 50
“สินเชื่อบ้านปัจจุบันนิยมทำดอกเบี้ยต่ำปี หรือสองปีแรก หลังจากนั้นก็ใช้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ผู้กู้ก็จะหาที่รีไฟแนนซ์เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยในระดับที่น่าพอใจ เราจึงออกสินเชื่อบ้านที่ดอกเบี้ยลดตามระยะเวลาที่ผ่อนทำให้ลูกค้าไม่ต้องออกไปรีไฟแนนซ์เหมือนเดิม ส่วนรายที่รีไฟแนนซ์เข้ามา ก็มีให้เลือก 2 อย่างคือ จะเอาดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรก หรือลดตามระยะเวลาที่ผ่อนก็ได้”
นายพาน ชินหยวน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารแบงก์ ออฟ ไชน่า จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายบริการทางการเงินให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยให้ครบวงจรมากขั้น โดยล่าสุด เปิดตัวบริการสินเชื่อ และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ เนื่องจากเห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนระดับกลาง โดยมีจุดเด่นที่ระยะเวลาอนุมัติรวดเร็ว และเสนอดอกเบี้ยในรูปแบบที่ความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ ธนาคารยังอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเปิดสาขาเพิ่มอีก 20 แห่ง ซึ่งหากได้รับอนุมัติก็จะทยอยเปิดเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ 3 สาขา และจะร่วมกับพันธมิตรในการหาช่องทางในการบริการเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ธนาคารได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ในการชำระค่างวดผ่านสาขาทุกแห่ง
น.ส.พรพิมล ปฐมศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเพื่อบุคคลทั่วไป กล่าวว่า จุดเด่นของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร คือ การคิดอัตราดอกเบี้ยรูปแบบใหม่ เน้นการประหยัดระยะยาว โดยดอกเบี้ยจะลดลงตามระยะเวลาที่ผ่อนจึงไม่ต้องทำรีไฟแนนซ์ในอนาคต มียอดผ่อนต่อเดือนต่ำ สามารถผ่อนชำระเพิ่มเติมได้ไม่มีค่าปรับ
ส่วนสินเชื่อรีไฟแนนซ์มีรูปแบบให้เลือก 2 แบบ แบบดอกเบี้ยต่ำปีแรก โดยปีแรกดอกเบี้ย 3.5%(MLR-3.5%) ปีที่สอง 5.6% และปีที่สาม 6.5% รวมเฉลี่ย 3 ปีดอกเบี้ย 5.1% และแบบยิ่งผ่อนยิ่งถูก ซึ่งลกูค้าไม่จำเป็นต้องรีไฟแนนซ์หลายรอบ
ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยแตะระดับ 5,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยสัดส่วนระหว่างสินเชื่อปล่อยใหม่ และรีไฟแนนซ์อยู่ในระดับใกล้เคียงกันคือ 50 : 50
“สินเชื่อบ้านปัจจุบันนิยมทำดอกเบี้ยต่ำปี หรือสองปีแรก หลังจากนั้นก็ใช้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ผู้กู้ก็จะหาที่รีไฟแนนซ์เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยในระดับที่น่าพอใจ เราจึงออกสินเชื่อบ้านที่ดอกเบี้ยลดตามระยะเวลาที่ผ่อนทำให้ลูกค้าไม่ต้องออกไปรีไฟแนนซ์เหมือนเดิม ส่วนรายที่รีไฟแนนซ์เข้ามา ก็มีให้เลือก 2 อย่างคือ จะเอาดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรก หรือลดตามระยะเวลาที่ผ่อนก็ได้”
