หุ้นไทยปิดตลาดบวก 48.06 จุด อยู่ที่ระดับ 1,384.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,039.11 ล้านบาท รับข่าวดีเศรษฐกิจของจีนเริ่มฟื้นตัว และตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวในแดนบวกทั้งในตลาดภูมิภาคเอเชีย และตลาดหุ้นยุโรป
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,384.31 จุด จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 48.06 จุด หรือ3.60% มูลค่าการซื้อขาย 49,039.11 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,384.31 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,352.85 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 627 หลักทรัพย์ ลดลง 152 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 126 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 6,139.87 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 147.12 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,996.48 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ -9,283.47 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.TRUE ปิดที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ +0.40% มูลค่าการซื้อขาย 2,743.29 ล้านบาท
2.ADVANC ปิดที่ 274.00 บาท เพิ่มขึ้น 21.00 บาท หรือ +21.00% มูลค่าการซื้อขาย 2,506.41 ล้านบาท
3.KBANK ปิดที่ 175.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือ +8.50% มูลค่าการซื้อขาย 2,217.24 ล้านบาท
4.SCB ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท หรือ +11.00% มูลค่าการซื้อขาย 2,122.34 ล้านบาท
5.PTT ปิดที่ 342.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ +8.00% มูลค่าการซื้อขาย 2,027.12 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นรวดเร็ว และรุนแรงมาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปที่ส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวก โดยอาจมองว่าเป็นการตอบรับทิศทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ
ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศจีนก็เริ่มกลับมาดีขึ้น ทำให้มีการมองว่าเศรษฐกิจจีนในครึ่งปีหลังน่าจะมีการฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะล้อไปกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศเอเชีย และกลุ่มตลาดอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากแรงหนุนมาตรการ QE จากที่เคยคาดว่าจะยกเลิกเร็วอาจจะไม่ได้เป็นไปตามคาดไว้ และถ้าหากมีวิกฤตสงครามเกิดขึ้นในประเทศซีเรีย จะเป็นปัจจัยผลักดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานของไทยอย่างมาก
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) ตลาดฯ ยังมีแรงหนุนในทิศทางบวก ดังนี้แนะนำนักลงทุนให้จับตาราคาน้ำมันดิบ หากยังมีการปรับขึ้นก็จะเป็นผลดีต่อกลุ่มพลังงาน และภาพรวมตลาดฯ โดยกรอบแนวรับแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,365-1,390 จุด