ใกล้ได้เวลาสู้
ตลาดหุ้นย่านเอเชียวันนี้แดงฉานกันไปทั่ว โดยเฉพาะกลุ่มทิพ ซึ่งทรุดตัวลงระดับ 4% รวมทั้งไทยที่ลดลงน้อยกว่า แต่ก็ยังถือว่าหนักอยู่ โดยดัชนีร่วงหลุด 1,300 จุดไปเรียบร้อย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่น่าไว้วางใจ และไม่มีใครกล้ายืนยันว่าแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,280 จุด จะต้านทานไหวหรือไม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,293.97 จุด ลดลง 35.21 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,687 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 890 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั้งโลกกำลังสั่นไหวอย่างแรง โดยยุโรปคืนวันอังคารก็ทรุดหนัก ส่วนกลุ่มทิพที่ทรุดตัวลงเกิดจากปัญหาภายในประเทศ โดยฟิลิปปินส์ ถูกผลกระทบพายุถล่ม อินโดนีเชีย มีปัญหาเศรษฐกิจ และค่าเงินทีอ่อนตัว ส่วนไทย เจอทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง จนรอบนี้ลงไปแล้ว 200 จุแล้ว
แม้แนวโน้มตลาดยังไม่ดีนัก แต่ราคาหุ้นที่ลงมาลึกม้วนเดียวทำให้ระดับราคาหุ้นในหลายกลุ่มเริ่มมีความน่าสนใจ และถ้าไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติมไม่น่าจะลงจากนี้มากน้ก แต่สถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองก็ยังยุ่งเหยิงปั่นป่วนอยู่ทำให้นักลงทุนกังวล เพราะหากเกิดวิกฤตขึ้นมาดัชนีสามารถปักหัวลงได้อีกลึก
อย่างไรตาม แรงขายของต่างชาติเริ่มแผ่วแล้ว และราคาหุ้นก็ซึมซับรับข่าวร้ายไปมาก ถ้าไม่มีปัจจัยกระทบ เศรษฐกิจ และการเมืองคลายตัวลงบ้าง ฝุ่นจางลงเมื่อไหร่จะเป็นช่วงเวลาที่จะทยอยกลับมาช้อนหุ้นเก็บ และน่าจะใกล้เวลาทยอยซื้อเก็บแล้วสำหรับหุ้นชั้นดีที่เงินปันผลคุ้มกับการลงทุนระยะยาว
ตลาดหุ้นย่านเอเชียวันนี้แดงฉานกันไปทั่ว โดยเฉพาะกลุ่มทิพ ซึ่งทรุดตัวลงระดับ 4% รวมทั้งไทยที่ลดลงน้อยกว่า แต่ก็ยังถือว่าหนักอยู่ โดยดัชนีร่วงหลุด 1,300 จุดไปเรียบร้อย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่น่าไว้วางใจ และไม่มีใครกล้ายืนยันว่าแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,280 จุด จะต้านทานไหวหรือไม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,293.97 จุด ลดลง 35.21 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,687 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 890 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั้งโลกกำลังสั่นไหวอย่างแรง โดยยุโรปคืนวันอังคารก็ทรุดหนัก ส่วนกลุ่มทิพที่ทรุดตัวลงเกิดจากปัญหาภายในประเทศ โดยฟิลิปปินส์ ถูกผลกระทบพายุถล่ม อินโดนีเชีย มีปัญหาเศรษฐกิจ และค่าเงินทีอ่อนตัว ส่วนไทย เจอทั้งปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง จนรอบนี้ลงไปแล้ว 200 จุแล้ว
แม้แนวโน้มตลาดยังไม่ดีนัก แต่ราคาหุ้นที่ลงมาลึกม้วนเดียวทำให้ระดับราคาหุ้นในหลายกลุ่มเริ่มมีความน่าสนใจ และถ้าไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติมไม่น่าจะลงจากนี้มากน้ก แต่สถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองก็ยังยุ่งเหยิงปั่นป่วนอยู่ทำให้นักลงทุนกังวล เพราะหากเกิดวิกฤตขึ้นมาดัชนีสามารถปักหัวลงได้อีกลึก
อย่างไรตาม แรงขายของต่างชาติเริ่มแผ่วแล้ว และราคาหุ้นก็ซึมซับรับข่าวร้ายไปมาก ถ้าไม่มีปัจจัยกระทบ เศรษฐกิจ และการเมืองคลายตัวลงบ้าง ฝุ่นจางลงเมื่อไหร่จะเป็นช่วงเวลาที่จะทยอยกลับมาช้อนหุ้นเก็บ และน่าจะใกล้เวลาทยอยซื้อเก็บแล้วสำหรับหุ้นชั้นดีที่เงินปันผลคุ้มกับการลงทุนระยะยาว
