xs
xsm
sm
md
lg

เอดีบีเล็งปรับลดจีดีพีไทย-จี้รัฐเร่งเบิกจ่าย-ลุ้นศก.โลกฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอดีบีเผยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณเศรษฐกิจไทย ระบุมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดให้อยู่กรอบ 4-4.3% จากเดิม 4.9% แต่เชื่อปีหน้าดีขึ้นหลังเศรษฐกิจประเทศหลักกระเตื้อง แนะเร่งพัฒนาการศึกษายกระดับประเทศ ด้านอาร์บีเอสมั่นใจเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง การถดถอยใกล้ต่ำสุด

นางสาวลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกร สำนักงานผู้แทนประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย(เอดีบี)เปิดเผยว่า เอดีบีอยู่ระหว่างทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งจะแล้วเสร็จและประกาศออกมาในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยลงเหลือกรอบ 4.0-4.3% จากเดิมที่ประมาณการไว้ 4.9% และการส่งออกเติบโตที่ 8% อย่างไรก็ตาม คงต้องรอตัวเลขที่ชัดเจนในช่วงเดือนตุลาคมอีกครั้ง

สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี ก็ให้ความสำคัญที่การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐว่าจะสามารถทำได้ตามที่ตั้งไว้หรือไม่ รวมถึงภาคส่งออกไทยที่อาจกระเตื้องขึ้น หากเศรษฐกิจในประเทศหลักดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นสูง ก็ยังเป็นตัวกดดันให้การใช้จ่ายภาคเอกชนถดถอยลง

"ตามภาพกว้างแล้ว เอดีบีก็มองภาพของเศรษฐกิจของประเทศที่เจริญแล้วในทิศทางที่ดีขึ้น และมองว่าอัตราการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศดังกล่าวจะสูงกว่าในปีนี้ ซึ่งก็คงจะช่วยให้ภาคส่งออกของไทยดีขึ้นบ้าง และหากโครงการลงทุนขนาดภาครัฐที่มีวงเงินมากถึง 2.2 ล้านล้านบาท มีการเบิกจ่ายออกมาตามกำหนดก็จะช่วยดึงการลงทุนภาคเอกชนให้ดีขึ้นด้วย"

ส่วนกรณีการลดวงเงิน QE ของสหรัฐฯนั้น ทางเอดีบีก็ติดตามผลกระทบจากเงินทุนที่ไหลออกอยู่ แต่เท่าที่ดูก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก และไม่ได้ไหลออกครั้งละจำนวนมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความแข่งแกร่งอยู่ อัตราการเติบโตที่ลดลงก็เป็นเพียงการปรับฐาน ขณะที่กรณีของอินโดนีเซียนั้น มีเงินไหลออกค่อนข้างมากและเร็ว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและภาคสถาบันการเงินยังมี
ความอ่อนไหวอยู่

แนะไทยพัฒนาระบบการศึกษายกระดับประเทศ

นอกจากนี้ เอดีบียังได้เสนอรายงานเรื่อง "Asia's Economic Transformation : Where to,How,and How Fast" โดยระบุว่า จากการศึกษาโครงสร้างของประเทศที่เจริญแล้ว จะพบว่ากลุ่มประเทศดังกล่าวมีการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการ สูงกว่าภาคเกษตรกรรม และมีการเคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคเกษตรกรรมไปสู่ภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมีรายได้ที่สูงกว่า ซึ่งหากพิจารณาถึงโครงสร้างของประเทศในกลุ่มเอเชียแล้ว พบว่ามีเพียง 50%ที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานในลักษณะดังกล่าว

สำหรับประเทศไทยพบว่าแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศ 40%ยังอยู่ในภาคเกษตรกร แต่สัดส่วนผลผลิตจากภาคอุตสาหกรรมอยู่ในระดับ 18%ของจีดีพี ซึ่งถือว่าหลุดจากระดับล่างมาแล้ว แต่โจทย์สำคัญต่อไปคือจะทำอย่างไรให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคการเกษตรที่มีเป็นจำนวนมาก และบางส่วนแรงงานตามฤดูกาล มาสู่ภาคอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคงในชีวิตและมีรายได้ที่มากกว่า

คำตอบหลักก็คือพัฒนาระบบการศึกษาของไทย ซึ่งไม่ควรจะให้ความสำคัญแค่ระดับอุดมศึกษาเท่านั้น ในระดับประถมและมัธยมก็มีเป็นพื้นฐานสำคัญที่ก้าวต่อไปในระดับอุดมศึกษา ขณะเดียวกันในภาคอุตสาหกรรมก็ต้องมีการยกระดับขึ้นพื่อขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

อาร์บีเอสคาดศก.ไทยใกล้ต่ำสุด

ด้านมร. เมดาน เมนอน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ร่วมด้านการตลาดและอินเตอร์เนชั่นแนลแบงกิ้ง ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารเดอะรอยัลแบงก์อ๊อฟสกอตแลนด์(RBS)กล่าวว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสองไตรมาสที่ผ่านมานั้น มีอัตราลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่าการหดตัวทางเศรษฐกิจอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุด โดยมีการใช้สินค้าคงคลังอย่างเต็มที่ สะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการผลิตในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2556 นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและตลาดต่างๆ ในโลก รวมทั้งการหารือเพื่อปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ มีความเป็นไปได้มากกว่า

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการจ้างงานและสร้างการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศมีการปรับตัว และมีเสถียรภาพ เช่นเดียวกับหนี้สินในครัวเรือน ทางด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างชาตินั้นมีการเติบโตอย่างเต็มที่ ดังนั้น ในครึ่งหลังของปี 2013 นี้ การส่งออกจะมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง

"เนื่องจากอุปสงค์ทางด้านการส่งออกของไทยกว่าครึ่งนั้นมาจากประเทศในกลุ่ม G3 และ จีน ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากความมีเสถียรภาพของเศรฐกิจจีน ซึ่งมีการเติบโตของ GDP ประมาณ 7.5% นอกจากนี้เศรษฐกิจในอเมริกาและยุโรปเริ่มส่งสัญญานที่ดีของการฟื้นตัว ดังนั้น เราจึงยังคงมั่นใจในทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังนี้"มร. เมนอน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น