“ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่นฯ” รับกำไรขั้นต้นลดจากสถานการณ์ปลาทูน่า พร้อมปรับลดเป้ายอดขายลงเหลือ 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามผลกระทบราคาวัตถุดิบ อีกทั้งปรับลดวงเงินลงทุนเหลือ 4.5 พันล้านบาท จากผลกระทบภาวะโรคกุ้ง
นายวาย ยัท ปาโก้ ลี รองผู้จัดการทั่วไปนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ หรือ TUF เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2556 จะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17% โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 11.7% เนื่องจากสถานการณ์ของราคาวัตถุดิบปลาทูน่า และเรื่องโรค EMS ยังไม่มีความแน่นอน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง
ขณะเดียวกัน จากเรื่องดังกล่าวมีผลให้บริษัทได้ปรับเป้ายอดขายลดลงเป็น 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ตั้งไว้ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายปลาทูน่าลดลง และส่วนหนึ่งมาจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่ามีราคาที่สูงขึ้น และมีความผันผวนจากต้นทุนของชาวประมงปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ได้เรียกร้องเกี่ยวกับการจับปลาทูน่า ทำให้มีกฎเกณฑ์ต่างๆ ออกมามากส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบ
นอกจากนี้ ปริมาณขายกุ้งแปรรูปลดลง หลังจากช่วงไตรมาส 2/56 บริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาโรคระบาดในกุ้ง (EMS) ซึ่งทำให้กุ้งตายก่อนเวลาอันควร ทำให้ต้องปรับลดเงินลงทุนเป็น 4.5 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 พันล้านบาท เนื่องจากมีการชะลอสร้างโรงงานแปรรูปกุ้ง จากแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ และจะแล้วเสร็จในปี 2557