อิออนติดเครื่องชำระเงินผ่านมือ กระตุ้นยอดใช้จ่าย

“อิออน” เอาใจนักชอปรุ่นใหม่ จับมือพันธมิตรให้บริการ mPOS ชำระเงินบนสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต เพิ่มช่องทางในการชำระเงินผ่านบัตรให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็ก และนักชอป ตั้งเป้าถึงสิ้นปีมียอดผู้ประกอบการใช้ mPOS ไม่ต่ำกว่า 5 พันเครื่อง และแตะ 2 หมื่นเครื่องในปีหน้า พร้อมช่วยกระตุ้นยอดใช้จ่ายเพิ่ม

นายยาซูฮิโกะ คอนโดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทอิออนได้เปิดตัวบริการระบบชำระเงินบนสมาร์ทโฟน หรือ mPOS (mobile point-of-sale) เพื่อเปิดโอกาสให้ร้านค้า และบริษัทพันธมิตรของอิออนสามารถใช้สมาร์ทโฟนทำหน้าที่เป็นจุดรับบัตร ทำให้ผู้ถือบัตรอิออนสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเพื่อชำระค้าสินค้า และบริการได้ง่ายดายขึ้น

“เรารู้สึกยินดี และตื่นเต้นที่ได้เปิดให้บริการใหม่อย่าง AEON Easy Pay เพราะบริการนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจของอิออนในประเทศไทย ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ให้บริการรายใหม่ของธุรกิจด้านระบบชำระเงิน และมีคู่แข่งรายใหญ่ แต่เราเชื่อมั่นว่าอิออนจะสามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านบริการบชำระเงินด้วยระบบ mPOS ได้อย่างแน่นอน”

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะร่วมกับบริษัทในเครืออย่าง บริษัท อิออน อินชัวรันส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น โดยอิออน มุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการดังกล่าวให้แก่หลากหลายกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจของอิออน เช่น กลุ่มธุรกิจประกัน กลุ่มธุรกิจบริการจัดส่งสินค้า รวมถึงร้านค้าสมาชิกต่างๆ ของอิออนซึ่งมีอยู่มากกว่า 15,000 ร้านค้าทั่วประเทศ

นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศพม่า และไทย กล่าวว่า คนไทยเริ่มมีการใช้จ่ายผ่านบัตรมากขึ้นอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมการชำระเงินรูปแบบใหม่อย่าง mPOS จะเปลี่ยนประสบการณ์การชำระเงินในประเทศผ่านเครือข่ายของวีซ่า เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยระหว่างการชำระเงินผ่าน mPOS วีซ่าจะทำการคัดกรองผู้ให้บริการ mPOS ที่ผ่านการทดสอบในด้านต่างๆ ตามมาตรฐานของธุรกิจบัตรชำระเงิน ภายใต้โครงการ Visa Ready เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างความไว้วางใจแก่ธนาคาร ร้านค้า และผู้ถือบัตร

นายนันทวัฒน์ โชควิจิตร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทอิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์)กล่าวเพิ่มเติมว่า บริการดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกทั้งแก่ผู้ประกอบการ และลูกค้าที่จะมีช่องเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะที่ร้านค้าก็มีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมียอดร้านค้าใช้ mPOS ไม่ต่ำกว่า 5,000 เครื่อง ซึ่งน่าจะเป็นส่วนของตัวแทนประกันที่เป็นพันธมิตรกับธนาคารประมาณ 500 เครื่อง และจะเป็น 20,000 เครื่องในสิ้นปีหน้า

“เราคิดว่าร้านค้าขนาดกลาง และเล็กน่าจะสนใจติดตั้ง mPOS เพราะมีต้นทุนที่ไม่สูง เมื่อเทียบกับเครื่องอีซีดี คือ ประมาณ 2,000 บาท และเสียค่าธรรมเนียม 2.50% ของยอดใช้จ่ายต่อครั้ง ขณะที่เครื่องอีซีดีมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งถึง 20,000 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมนั้นเป็นหน้าที่ของร้านค้าที่ต้องจ่าย ซึ่งคิดว่าหากได้ใช้ไประยะหนึ่ง และเห็นถึงความสะดวกและมั่นใจว่ามีความปลอดภัยก็จะมีผู้นิยมใช้มากขึ้น”

นายนันทวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีร้านค้ารับบัตรเพิ่มก็แน่นอนว่าในส่วนของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น แต่ในปีนี้เป็นช่วงเริ่มต้น การเพิ่้มขึ้นตรงนั้นอาจจะยังไม่มีนัยสำคัญเท่าไหร่ แต่ในอีกไม่นานน่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีสถาบันการเงินที่ให้บริการในลักษณะเดียวกันอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และอิออน