“พรพรหมเม็ททอล” โชว์ฟอร์มดี ประกาศงบครึ่งปีแรกรายได้แตะ 792.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 714.36 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิครึ่งปีอยู่ที่ 42.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.77 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2556 มีอัตราการทำกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจที่ 15.25 ล้านบาท “ชำนาญ พรพิไลลักษณ์” แจงผลงานดีขึ้นบริษัทฯ มีกำไรงวดนี้เพิ่มขึ้นไตรมาส 2/56 เพิ่ม มั่นใจครึ่งปีหลังธุรกิจสดใส พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 56 แตะ 2 พันล้านบาท
นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 2/2556 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 387.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 364.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.41 ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 15.25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่บริษัทฯ มีกำไร 15.49 ล้านบาท
“ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าในไตรมาส 2/2556 มีกำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 5 เท่า เนื่องจากหากพิจารณาจากงบกำไรที่แท้จริงในไตรมาส 2/55 บริษัทฯ มีกำไรเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น แต่ได้รับเงินชดเชยจากรายการพิเศษกรณีน้ำท่วม จากบริษัทประกันภัย เข้ามากว่า 12 ล้านบาท และจากการจำหน่ายหุ้นลูกค้าอีกกว่า 7 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 2/55 มีกำไรสุทธิ15.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น จึงอย่างชี้แจงให้กลุ่มผู้ถือหุ้น และ นักลงทุนเข้าใจตรงกัน” นายชำนาญกล่าว
สำหรับผลประกอบงวด 6 เดือน (มกราคม2556 -มิถุนายน 2556) บริษัทฯมีรายได้รวมที่ 792.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 714.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.99 ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือนปี 2556 อยู่ที่ 42.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่มีกำไรสุทธิ 30.77 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.7 เนื่องจากที่บริษัทฯ มีอัตราผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทฯ ได้ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการขยายพื้นที่ในการจำหน่ายโดยผ่านตัวแทนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ อัตราการขยายตัวของผลการดำเนินงานอย่างเด่นชัดในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2556 นั้น นายชำนาญ กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนในการขยายงานอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมในธุรกิจที่หลากหลายขึ้น โดยเริ่มจากการสร้างศูนย์การค้า ที่อำเภอศาลายา หลังมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็น Education Hub พร้อมทั้งการจัดตั้งบริษัท พรีเมี่ยม เฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ PFP โดยจะผลิตวัสดุหีบห่อชนิดอ่อน เช่น แผงยา อาหารกลุ่มประเภทนม และโยเกิร์ต
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะมีธุรกิจที่จะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของลอจิสติกส์ เพราะปัจจุบัน ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของไทยอยู่ที่ประมาณ 15% ของ GDP ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับในประเทศที่เจริญแล้วซึ่งอยู่ไม่เกิน 10% ทั้งนี้ ในปี 2556 บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 2 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 43% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.48 พันล้านบาท
นายชำนาญ พรพิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 2/2556 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 387.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 364.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.41 ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 15.25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่บริษัทฯ มีกำไร 15.49 ล้านบาท
“ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าในไตรมาส 2/2556 มีกำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 5 เท่า เนื่องจากหากพิจารณาจากงบกำไรที่แท้จริงในไตรมาส 2/55 บริษัทฯ มีกำไรเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น แต่ได้รับเงินชดเชยจากรายการพิเศษกรณีน้ำท่วม จากบริษัทประกันภัย เข้ามากว่า 12 ล้านบาท และจากการจำหน่ายหุ้นลูกค้าอีกกว่า 7 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 2/55 มีกำไรสุทธิ15.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น จึงอย่างชี้แจงให้กลุ่มผู้ถือหุ้น และ นักลงทุนเข้าใจตรงกัน” นายชำนาญกล่าว
สำหรับผลประกอบงวด 6 เดือน (มกราคม2556 -มิถุนายน 2556) บริษัทฯมีรายได้รวมที่ 792.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 714.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.99 ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือนปี 2556 อยู่ที่ 42.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่มีกำไรสุทธิ 30.77 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.7 เนื่องจากที่บริษัทฯ มีอัตราผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทฯ ได้ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการขยายพื้นที่ในการจำหน่ายโดยผ่านตัวแทนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ อัตราการขยายตัวของผลการดำเนินงานอย่างเด่นชัดในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2556 นั้น นายชำนาญ กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนในการขยายงานอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมในธุรกิจที่หลากหลายขึ้น โดยเริ่มจากการสร้างศูนย์การค้า ที่อำเภอศาลายา หลังมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็น Education Hub พร้อมทั้งการจัดตั้งบริษัท พรีเมี่ยม เฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง จำกัด หรือ PFP โดยจะผลิตวัสดุหีบห่อชนิดอ่อน เช่น แผงยา อาหารกลุ่มประเภทนม และโยเกิร์ต
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะมีธุรกิจที่จะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของลอจิสติกส์ เพราะปัจจุบัน ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของไทยอยู่ที่ประมาณ 15% ของ GDP ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับในประเทศที่เจริญแล้วซึ่งอยู่ไม่เกิน 10% ทั้งนี้ ในปี 2556 บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 2 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 43% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.48 พันล้านบาท