xs
xsm
sm
md
lg

“สหการประมูล” มั่นใจโตต่อเนื่องหลังเข้าตลาดฯ คาดกำไรปี 56 พุ่งได้อีก 10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สหการประมูล” ตั้งเป้ากำไรโต 10% จากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 34 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหลังเข้าตลาดฯ จะทำกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท/ปี ยอมรับเริ่มเห็นฟองสบู่ตลาดรถยนต์มือ 2 ที่ล้นตลาดกว่า 1.5 แสนคัน ย้ำยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตราย เพราะลูกค้ายังมีกำลังผ่อน และเอ็นพีแอลยังไม่สูงมาก

นายเทพทัย ศิลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้ากำไรสุทธิเติบโต 10% จากปี 2555 ที่กำไร 34 ล้านบาท และตั้งเป้าหลังเข้าตลาดฯ จะทำกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท/ปี ในส่วนของรายได้ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่ 352 ล้านบาท โดยนับจากนี้ไปถึงปี 57 คาดยอดประมูลรถเพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาท/เดือน จากก่อนหน้า 1,000 ล้านบาท/เดือน พร้อมตั้งเป้าปี 57 มียอดขายรถเพิ่มเป็น 1 แสนคัน/ปี จาก 8 หมื่นคัน/ปี ในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 20%

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุนราว 70 ล้านบาท ปรับขยายพื้นที่เทคอนกรีตทำหลังคาจอดรถรองรับรถรอประมูล 1 แสนคัน/ปี ซึ่งราคาช่วงนี้ผู้ซื้อจะได้ประโยชน์สูงสุดเพราะเป็นราคาที่อ่อนตัวในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากดีมานด์น้อยกว่าซัปพลาย ทำให้ราคารถมือ 2 ลดลง 2-3% จึงเชื่อว่าความต้องการรถมือ 2 เพิ่มขึ้น ซึ่งใน 3 เดือนนี้บริษัทจะเร่งระบายรถที่มีอยู่ 3 แสนคันให้กระจายออกสู่ผู้ใช้ในตลาดทั่วไป และในอนาคตจะออกสู่ตลาดต่างประเทศด้วย

บริษัทเตรียมปรับแผนขายรถจากปัจจุบันขายให้ผู้ประกอบการรถ 90% ผู้ใช้จริง 10% แต่ในอนาคตจะปรับเป็น 70% ต่อ 30% เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้จริง

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมรถมือ 2 ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากโครงการซื้อรถยนต์คันแรกของรัฐบาลหมดลง นายเทพทัย ยอมรับว่า ราคารถยนต์มือ 2 ปรับลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น ทั้งจากรถยนต์ใหม่มีราคาถูกลง และมีโปรโมชันที่จูงใจผู้ซื้อ ส่งผลให้ความต้องการซื้อรถยนต์มือ 2 น้อยกว่าจำนวนรถมือ 2 ในท้องตลาด

ซึ่งขณะนี้พบว่า มีปริมาณรถยนต์ส่วนเกินที่เป็นปัญหาฟองสบู่ประมาณ 150,000 คัน และรถจักรยานยนต์ส่วนเกินจากความต้องการอยู่ที่ 150,000 คัน รวมเป็น 300,000 คัน ซึ่งคาดว่าจะมีการทยอยนำมาจำหน่ายในประเทศ และต่างประเทศต่อไป ซึ่งคาดว่าจะระบายหมดภายใน 1 ปี

ส่วนราคาประมูลรถยนต์มือ 2 ลดลงประมาณ 2-3% แต่ลดลงน้อยกว่าราคาท้องตลาด เนื่องจาก การประมูลมีการตั้งราคารถยนต์ใกล้เคียงกับความจริง ซึ่งยุติธรรมกับทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายถือว่าเป็นโอกาสที่ผู้ซื้อจะสามารถซื้อรถราคาถูก

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัญหาฟองสบู่ในภาครถยนต์มือ 2 แต่ยังไม่เป็นอันตรายอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เพราะผู้ซื้อยังมีกำลังในการผ่อนชำระ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังไม่สูงมาก ประกอบกับสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อยังมีมาตรการตามยึดรถคืนเพื่อนำมาขายทอดตลาดต่อไป โดยมีการยึดรถคืน 10-15% ของจำนวนยอดขาย ซึ่งถือว่าไม่ได้น่าตกใจ เพราะปริมาณจำนวนรถยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 10-15% เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น