xs
xsm
sm
md
lg

หัวหินเฮ! ผู้ว่าฯ สั่งแก้ผังเมืองใหม่เพิ่มถนน-FRA หวังลดความแออัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


- หัวหิน เฮ! ผู้ว่าฯ สั่งแก้ผังเมืองใหม่ เพิ่มถนนวงแหวนรอบกลาง เพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดิน ขยายเมืองออกรอบนอก หลังนักท่องเที่ยวทะลุ 3 ล้านคน/ปี เป็นเหตุการณ์จราจรติดขัด เมืองแออัด ระบุต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน คาดปีหน้าประกาศใช้

นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเติบโตของเมืองหัวหินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติสูงถึง 3 ล้านคนในปี 55 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% ขระที่ห้องพักโรงแรมมีกว่า 13,000 ห้อง คาดว่าปี 57 จะเพิ่มขึ้นอีก 10% นอกจากนี้ หัวหินยังได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับโลกในวัยเกษียณอายุ ทำให้เชื่อว่าอนาคตหัวหินจะมีการเติบโตอีกมาก

“การเติบโตดังกล่าวทำให้หัวหินมีความแออัด การจราจรติดขัด มีการพัฒนาโครงการจำนวนมาก จากปัญหาความแออัดดังกล่าว ประกอบกับผังเมืองฉบับเดิมหมดอายุ จึงมีแนวความคิดที่จะนำผังเมืองมาปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ หัวหินเป็นสถานที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีแนวความคิดที่จะวางผังเมืองให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย”

ทั้งนี้ ในอนาคตรัฐบาลมีแผนจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ-หัวหิน ในประมาณปี 60 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในหัวหินมากขึ้น จึงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผังเมืองปัจจุบันกลับมาทบทวนเพื่อแก้ไขใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดช่องทางการจราจรใหม่ ระหว่างถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี และหัวหิน โดยตัดเป็นเส้นถนนวงแหวนรอบกลาง ไปสิ้นสุดบริเวณโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน

นอกจากการตัดถนนเพิ่มแล้ว ยังอนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพิ่มขึ้น หรือการเพิ่ม FAR (Floor Area Ratio) หมายถึง อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน เช่นจากเดิมในบางพื้นไม่อนุญาตให้พัฒนาในเชิงพาณิชย์ ผังเมืองฉบับใหม่จะอนุญาตให้พัฒนาได้ เช่น บริเวณเชิงเขา รอบนอกเมือง เพื่อกระจายการเจริญเติบโตออกไปยังรอบนอกเมืองมากขึ้น ซึ่งจะเน้นการเพิ่มการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่สำหรับพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว เช่น ติดทะเล ใกล้พระราชวัง ก็จะยึดตามผังเมืองฉบับเดิม อย่างไรก็ตาม ร่างผังเมืองฉบับใหม่นี้จะต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินงานอีกประมาณ 1 ปี จึงจะสามารถประกาศใช้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น