“เคลีสซิ่ง” โชว์ครึ่งปีแรกปล่อยกู้ได้ 3.7 หมื่นล้าน จากเป้าหมายที่ 8.4 หมื่นล้าน พร้อมกันสำรองเพิ่มรองรับความผันผวน ส่งผลให้มีกำไร 140 ล้าน ส่วนครึ่งปีหลังเร่งอัดแคมเปญลุยรถกะบะ-บิ๊กไบค์ รับตลาดรถยนต์-รถมือสองซบ
นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2556 ว่า บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ และลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ได้ 37,763 ล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างในระบบ (Outstanding Loan) ของบริษัทอยู่ที่ 84,940 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 96,794 ล้านบาท คิดเป็น 87.75% และมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 0.82% ส่งผลให้มีกำไร 232 ล้านบาท และเมื่อตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และอาจเป็นผลกระทบต่อลูกค้าได้ในอนาคต ทำให้ในครึ่งปีแรกปี 2556 บริษัทยังคงมีกำไรสุทธิ 140 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังปี 2556 ตลาดรถยนต์โดยรวมน่าจะอยู่ในช่วงชะลอตัว ดังนั้น บริษัทจะเน้นทำการตลาดในกลุ่มรถกระบะ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการ และรถยนต์ขนาดกลางขึ้นไป เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนี้ยังมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big Bike) ซึ่งแนวโน้มตลาดยังมีโอกาสเติบโตสูง จากการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ของแต่ละค่ายที่ออกสู่ตลาดหลายรุ่น
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กสิกรไทย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มต่างๆ และสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย มีรถยังไงก็ไม่ขาดเงิน สำหรับรถยนต์อายุ 1-17 ปี ทุกยี่ห้อ ด้วยดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกต่ำสุดเพียง 7.48% ผ่อนได้นานสูงสุด 72 เดือน ไม่เก็บค่าธรรมเนียม ทั้งยังโปะได้โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
ด้านนายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ในครึ่งปีหลังปี 2556 ตามที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศหลังหมดแรงกระตุ้นจากนโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรก และการยกเลิกใบจองของแต่ละค่ายที่คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% รวมถึงการเลื่อนรับรถอีกประมาณร้อยละ 10-20% จะเป็นปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดในช่วงต่อจากนี้ไป แต่ก็จะมีปัจจัยบวกที่จะทยอยเข้ามากระตุ้นตลาดรถยนต์ เช่น การจัดแคมเปญของค่ายรถยนต์แต่ละค่าย การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2556 มีแนวโน้ม 1.22-1.29 ล้านคัน
ส่วนตลาดรถยนต์มือสอง จะได้รับผลกระทบด้านยอดขาย และราคาขายอย่างต่อเนื่องจากการเข้ามาสู่ตลาดของรถยนต์อีโคคาร์ นโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรก และล่าสุด จากแคมเปญกระตุ้นยอดขายของค่ายรถที่ออกมาในช่วงภาวะตลาดซบเซา ซึ่งคาดว่าจะทยอยออกมาให้เห็นอีกอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
