บล.ฟินันเซียฯ มั่นใจหุ้นวันนี้ยืนในแดนบวกได้ แต่อาจมีแรงขายทำกำไรทำให้ดัชนีผันผวนบ้าง บล.เมย์แบงก์ฯ เชื่อมีแรงส่งให้ดัชนีแตะ 1,520 จุด มองประเด็นการเมืองเริ่มกดดันการลงทุนอีกครั้ง บลไอร่า มั่นใจทิศทางตลาดยังดี หลังดัชนีผ่านแนวต้าน 1,500 จุดได้ แถมได้รับแรงหนุนจากข่าว “มูดี้ส์” ปรับเพิ่มเครดิต “ตราสารหนี้”
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซียไซรัส เชื่อว่า ตลาดหุ้นวันนี้ (24 ก.ค.) จะยังคงยืนอยู่ในแดนบวกได้ แต่อาจจะมีสลับกับการแกว่งตัวผันผวนอยู่บ้าง โดยกรอบแนวรับดัชนีคาดว่าจะอยู่ที่ 1,490-1,500 จุด โดยกรอบแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,515-1,520 จุด ทั้งนี้ นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีราคาไม่แพงตามมูลค่าหุ้น ในหุ้นกลุ่มหลักที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า การที่ดัชนีเมื่อวานนี้ปิดทะลุที่ระดับ 1,500 จุดครั้งแรก ในรอบกว่า 1 เดือน ปิดที่ 1,513.31 จุด บวก 2.12% จึงคาดว่าในวันนี้ ยังมีแรงส่งให้ไต่ระดับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,520 จุด แม้ไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุน แต่ก็ขาดปัจจัยลบใหม่ที่จะเข้ามากดดันตลาดเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อ-ขาย สุทธิเพียงเล็กน้อย ทำให้แรงกดดันที่เคยมีน้ำหนักในเดือน มิ.ย. อ่อนแรงลง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่า การเก็งกำไรจะสามารถดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้ อาจผลักดันให้ดัชนีขยับขึ้นทดสอบแนว 1,530 จุดได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควร “ขายทำกำไร” ตามแนวต้านเป็นระยะๆ เช่นกัน เพราะปัจจัยพื้นฐานของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีความเปราะบาง
นอกจากนี้ ประเด็นการเมืองมีแนวโน้มที่จะกลับมากดดันอีกครั้งในเดือน ส.ค.จากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่จะเข้าสู่สภาฯ เพื่อพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญต่อความเชื่อมั่นทั้งใน และต่างประเทศ นอกเหนือไปจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะ 3-5 ปี
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ไอร่า จำกัด มองว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ หลังผ่านแนวต้านที่ 1,500 จุด ขณะที่คาดภาพรวมตลาดได้รับปัจจัยบวกในประเทศ จากประเด็นที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับเพิ่มเพดานความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ และเงินฝากระยะยาวสกุลเงินบาท ของผู้ออกตราสารหนี้ไทย จาก Aa2 เป็น A1 โดยคงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลไทยไว้ที่ Baa1
นอกจากนี้ ตลาดยังอยู่ระหว่างทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2556 ที่ยังมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่อง ทั้งผลประกอบการ และเงินปันผล อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำติดตามการไหลของเงินทุนที่มีความผันผวนจากแรงซื้อขายสุทธิของต่างชาติสลับกัน รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ยังมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 107 ดอลลาห์สหรัฐต่อบาร์เรล รวมถึงการเปิดประชุมสภาในวันที่ 1 สิงหาคม 2556 นี้ ที่จะมีน้ำหนักต่อตลาดเพิ่มขึ้น
