“กรมธนารักษ์” ชำแหละปัญหา “เหรียญ” ไม่หมุนเวียนในระบบ เล็งเสนอให้ผ่าทางตันโครงสร้าง กม. ถือครองเหรียญ และบุคลากรที่มีข้อจำกัดด้านอัตราจ้าง พร้อมชงจัดซื้อเครื่องนับเหรียญป้อนพื้นที่จำเป็นเร่งด่วน และภาคธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องทำธุรกรรมเงินเหรียญจำนวนมาก
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า หลังจากผู้ประกอบกิจการ และผู้ร่วมทุนกิจการตู้เติมเงินร้องเรียนให้แก้ปัญหาการรับแลกเหรียญเป็นธนบัตร เนื่องจากประสบปัญหาไม่สามารถรับแลกเหรียญ ทำให้บางรายต้องสะสมเหรียญไว้มากกว่า 20 ล้านบาท จนกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียน และต้องขนเงินเหรียญนำไปแลกที่ส่วนกลาง โดยกรมธนารักษณ์ยอมรับปัญหาการบริหารจัดการเหรียญในปัจจุบันมีอุปสรรคอย่างมาก เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎหมาย และบุคลากร พนักงานดูแล การนับเหรียญ และจ่ายแลก ปัจจุบันลดลงจาก 200 คน เหลือเพียง 60 คน สำหรับดูแลการนับเหรียญทั่วประเทศ จากข้อจำกัดด้านอัตราจ้าง
นอกจากนี้ ยังมีปัญหากฎหมายสำหรับการถือครองเหรียญ โดยกำหนดให้กรมธนารักษ์พื้นที่เบิกเหรียญเพื่อแจกจ่ายต่อวันได้ไม่เกิน 200 ล้านบาท นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการในปัจจุบัน เพราะต้องเติมเงิน การหยอดเหรียญตามตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ จึงต้องเร่งแก้ไขกฎหมายเพื่อให้บริหารจัดการเหรียญแต่ละพื้นที่ทำได้มากขึ้น แต่ระยะสั้นต้องโอนย้ายบุคลากรไปช่วยงานศูนย์กระจายเหรียญที่มีความต้องการจำนวนมาก เพื่อให้ทันตามความต้องการ เช่น พื้นที่ภาคใต้ ที่ไม่มีปัญหาในการกระจายเหรียญ เป็นต้น
ทั้งนี้ ยังมีแนวทางให้ธนาคารออมสินเข้ามาเป็นหน่วยช่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์เพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีสาขาของธนาคาร รวมทั้งการเร่งจัดซื้อเครื่องนับเหรียญ เพื่อนำไปติดตั้งในพื้นที่ความต้องการสูง เช่น พื้นที่ขอนแก่น เพราะเป็นศูนย์กระจายเหรียญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัดตอนบน เพราะเงินเหรียญหมุนเวียนมากที่สุด จึงต้องเพิ่มวงเงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ได้มากขึ้น ส่วน จ.อุดรธานี ยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องการเหรียญด้วยเช่นกัน จึงใช้รถโมบายเข้าไปให้บริการเพื่อลดภาระของผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง
