กรุงศรีกรุ๊ป แจงผลประกอบการไตรมาสสอง 3.1 พันล้านลดลง 17.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เหตุกันเฉือนกันสำรองพิเศษเพิ่ม 2.6 พันล้าน รองรับวฏจักรธุรกิจ-เศรษฐกิจชะลอ มั่นใจช่วงที่เหลือของปียังโตได้
กรุงศรีกรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) วันนี้ได้รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 2/2556 ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท ลดลง 24.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2556 และลดลง 17.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2555 และสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2556 กรุงศรีกรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 7.1 พันล้านบาท ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2555 เนื่องจากธนาคารได้นกันสำรองพิเศษ จำนวน 2.6 พันล้านบาท รองรับวัฏจักรธุรกิจ และความเป็นไปได้ของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ (countercyclical reserves) ธนาคารมีสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 12.3 พันล้านบาท เป็น 15.7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 182.5% ของเกณฑ์สำรองที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ ทั้งนี้ ธนาคารมีกำไร 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.7% จากไตรมาส 1/2556 และ 37.8% จากไตรมาส 2/2555 ก่อนการตั้งสำรองพิเศษ จำนวน 2.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปีนี้
สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมเติบโตต่อเนื่อง ในครึ่งแรกของปี 2556 สินเชื่อขยายตัว 4.1% ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยอดสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และสินเชื่อ SME โดยมียอดสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นจำนวน 34.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2555 สินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 9.1% ขณะที่สินเชื่อ SME เพิ่มขึ้น 1.6% ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อทั้งหมดยังคงอยู่ที่ 2.4%
ขณะที่การเติบโตของเงินรับฝากเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าการเติบโตของสินเชื่อ โดยเติบโต 6.5% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2555 หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นจำนวน 44.6 พันล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากผลสำเร็จของธนาคารในการระดมเงินฝากผ่าน “เงินฝากประจำ Step Up 9 เดือน” ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 4.31%
นางเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ นับเป็นอีกไตรมาสหนึ่งที่กรุงศรีมีผลประกอบการที่ดี โดยปัจจัยพื้นฐานหลักทั้งหมดของเราดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสนี้ กรุงศรีได้เพิ่มการตั้งสำรองพิเศษเป็นจำนวน 2.6 พันล้านบาท เพื่อรองรับวัฏจักร ธุรกิจและความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเติบโตช้าลงอันเป็นผลจากปัจจัยภายใน หรือภายนอกประเทศซึ่งสะท้อนนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังของกรุงศรี
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2556 กรุงศรี ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ เราคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในอัตราประมาณ 4% ทั้งนี้ ภาวะการจ้างงานในประเทศที่แข็งแกร่ง นโยบายการเงินที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น จะมีส่วนช่วยสนับสนุนต่อความต้องการสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง ที่โดยปกติจะมีปัจจัยด้านฤดูกาลสนับสนุนให้ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าในครึ่งปีแรก ทั้งในส่วนของสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และสินเชื่อของภาคธุรกิจ โดยกรุงศรียังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 12% สำหรับปี 2556