“ทนง” ปัดถูกทาบนั่งเก้าอี้ ปธ.บอร์ด “ธปท.” พร้อมโชว์กึ๋นวิธีการดูแลค่าเงินบาท

อดีตขุนคลังชื่อดัง “ทนง พิทยะ” ปัดถูกทาบนั่งเก้าอี้ “ปธ.บอร์ด” ธปท. ยันไม่ได้รับการติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด ชี้ “โกร่ง-ประสาร” ความเห็นขัดแย้ง ถือเป็นเรื่องปกติ พร้อมโชว์วิสัยทัศน์การดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทเพื่อช่วย ศก. ครึ่งปีหลัง

นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระแสข่าวตนเองเป็นหนึ่งในตัวเต็งถูกทาบทามให้เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แทนที่นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคนปัจจุบัน ที่จะหมดอายุลงเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ในวาระนี้ โดยยืนยันว่า ในขณะนี้ตนเองยังไม่ได้รับการทาบทามให้เข้าดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในส่วนของความคิดเห็นที่แตกต่าง ระหว่างประธานคณะกรรมการ (นายวีระพงษ์) และคณะกรรมการบริหารของทาง ธปท. นั้น ถือเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีความคิดเห็นทางเศรษฐศาสตร์ที่ไม่ตรงกัน

ขณะเดียวกัน โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว นายทนง ยอมรับว่า ตนเองก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างในช่วงที่ทาง ธปท. มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 2.75 ก่อนมีการปรับลดลง เพราะมองว่า หากมีการปรับลดลงตั้งแต่ช่วงแรกก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงทำให้อัตราแลกเปลี่ยนปรับอ่อนค่าลง และทำให้การส่งออกแข่งขันได้ ซึ่งต่อไปจากนี้ ทาง ธปท. จะต้องรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้เหมาะสมต่อไป เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ แม้ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงจากการขาดมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนโยบายประชานิยมของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่า ทั้งปี 2556 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4.5-5 อย่างแน่นอน เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง

แต่หลังจากนี้ไปจะต้องจับตาปัญหาเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป รวมไปถึงมองว่าในประเทศสหรัฐฯ นั้น จะยังคงไม่มีการชะลอมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ (คิวอี) อย่างแน่นอน เนื่องจากจะต้องมีการพยุงเศรษฐกิจต่อไป เพราะอัตราการว่างงานของประเทศสหรัฐฯ นั้น ยังไม่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าร้อยละ 7 จึงเป็นไปได้ยากที่จะมีการชะลอมาตรการคิวอี