พฤกษาฯ ดึง “เลอศักดิ์ จุลเทศ” อดีตบิ๊กแบงก์ออมสินนั่งแท่นบริหารโชว์พันธกิจแรกเร่งสางปัญหาร้องเรียน

พฤกษาฯ ปรับทัพธุรกิจใหม่ดึง “เลอศักดิ์ จุลเทศ” อดีตบิ๊กแบงก์ออมสินนั่งแท่นบริหาร ลั่นเร่งสางปัญหาร้องเรียน ด้าน “ทองมา วิจิตรพงษ์พันธุ์” นั่งประธานดูภาพรวม ตั้งเป้าติด 1 ใน 10 ธุรกิจอสังหาฯเอเชีย ภายใน 4-6 ปี

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับผังองกร์พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 แบรนด์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทวีปเอเชียภายใน 4-6 ปี ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับที่ 25

พร้อมประกาศการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการบริหารธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มทุกระดับที่อยากเป็นเจ้าของบ้าน จึงมีการแบ่งโครงสร้างองค์กร และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริหารตาม Segment ของบ้าน ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้บริหารสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมบ้าน และบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น และเพื่อความคล่องตัวในการบริหารงานให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของพฤกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

“เพื่อให้บริษัทมีความเป็นสากล ดังนั้น จะต้องปรับผังองค์กรใหม่ให้มีการบริหารงานที่ชัดเจน เพราะหากต้องการให้องค์กรคงอยู่เป็นร้อยๆ ปี จะต้องวางรูปแบบการบริหารแบบไม่ยึดติดที่ตัวบุคคล แม้ว่าตนเองจะเป็นผู้ก่อตั้งก็ตาม ดังนั้น จึงแยกเป็นหน่วยธุรกิจ โดยกำหนดให้ผู้บริหารดูแลในธุรกิจแต่ละเซกเมนต์ ส่วนตนเองจะดูในแง่ของนโยบายหลักๆ แต่ก็ยังทำงานอย่างเต็มที่เช่นเดิม” นายทองมากล่าว

นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้ง“นายเลอศักดิ์ จุลเทศ" เข้ามาดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการ ทำหน้าที่บริหารองค์ในภาพรวม ในฐานะที่เป็นผู้บริหารมืออาชีพที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในการบริหารองค์กรระดับชั้นนำ (Professional Outside Industry) มาบริหารจัดการ และเสริมศักยภาพองค์กรให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

สำหรับผังองค์กรใหม่ของพฤกษา นอกจากที่นายเลอศักดิ์ จะนั่งเป็นผู้บริหารองค์กรแล้ว ยังดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท ขณะที่นายปิยะ ประยงค์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ดูแลธุรกิจทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด, นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต เป็นกรรมการผู้จัดการ ดูแลธุรกิจคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล, นายนิมิตร พูลสวัสดิ์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ดูแลบ้านเดี่ยว, นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส เป็นกรรมการผู้จัดการดูแลการลงทุนในต่างประเทศ, นายวีระศักดิ์ แก้วหนู เป็นกรรมการผู้จัดการ ดูแลโครงการพิเศษ เช่น โครงการขนาดเล็กในซอย หรือโครงการที่มีลักษณะพิเศษ นายเฮ็ดเอิร์ด โจเซฟ คูเปอร์ จูเนียร์ เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน และบริหารความเสี่ยง

นายทองมา กล่าวต่อว่า ในปีนี้บิรษัทสามารถสร้างยอดขายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดยในช่วงครึ่งปีแรก สามารถสร้างยอดขายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายครึ่งปีแรกตั้งไว้เพียง 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า เนื่องจากเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะมีการเติบโตราว 7% แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีปัญหาอยู่ก็ตาม ดังนั้น บริษัทจึงอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายสูงกว่า 4 หมื่นล้าน

สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 33 โครงการ ส่วนในครึ่งปีหลังมีแผนเปิดอีก 45 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งปีเปิด 78 โครงการ

“เลอศักดิ์” โชว์วิสัยทัศน์สางปัญหาร้องเรียน

ด้านนายเลอศักดิ์ กล่าวว่า พร้อมที่จะนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ในภาคการเงินการธนาคาร และทั้งด้านการบริหารองค์กรมาช่วยเสริมให้กองทัพพฤกษา เรียลเอสเตท รักษาระดับการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาด real sect โดยพันธกิจแรกที่จะดำเนินการ คือ การลดปัญหาเรื่องร้องเรียนเรื่องคุณภาพบ้านของบริษัท ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องร้าว รั่ว ซึม ประมาณ 1% หรือหลักพันยูนิต จากปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยบ้านพฤกษากว่า 1 แสนยูนิต

“จะนำประสบการณ์ในธุรกิจบริการทางการเงินกว่า 30 ปี มาปรับใช้กับอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจบริการประเภทหนึ่งเหมือนกัน หากแก้ปัญหานี้ได้ หรือปรับให้ลูกค้ามีความพึงพอใจได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะปัจจุบัน เราสร้างบ้านให้คนไทยอยู่ 98% หากทำได้ก็มีโอกาสนำความรู้ไปโชว์ในต่างประเทศ”

ดันธุรกิจคอนโดฯ ขึ้นแท่นอันดับ 1

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ PS กล่าวว่า ตั้งเป้าขึ้นเป็นเบอร์ 1 ตลาดคอนโดมิเนียมภายใน 4 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่อันดับ 4 ซึ่งต้องมีรายได้ 2.-2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีมาร์เกตแชร์ 10% จากปัจจุบันมีอยู่ 6% สำหรับในปี 56 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (backlog) กว่า 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีการปรับเป้ายอดขายทั้งปีเพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 7,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายแล้ว 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากครึ่งปีแรกบริษัทเปิดไปแล้ว 6 โครงการ จากเป้าเปิดโครงการใหม่ทั้งปีที่ 15 โครงการ