“เหมราชฯ” ระบุครึ่งแรกของปี 56 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรม 1,190 ไร่ โตเกินเป้าร้อยละ 32 พร้อมรื้อเป้าขายทั้งปีเพิ่มเป็น 1,800 ไร่ ชี้ปัจจัยเกื้อหนุนทั้งด้านเศรษฐกิจ ฐานการผลิต ต้นทุน อัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อประโยชน์แก่นักลงทุน
นายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงตลาดนิคมอุตสาหกรรมว่า ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมากในการตั้งฐานการผลิต การร่วมทุน และการเติบโตทางธุรกิจ เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนในด้านต่างๆ ทั้งต้นทุน อัตราแลกเปลี่ยน โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น โดยจะพิจารณาได้จากในครึ่งแรกของปี 2556 ด้วยยอดขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมจำนวน 1,190 ไร่ (476 เอเคอร์ หรือ 190 เฮกตาร์) โดยมีจำนวนสัญญารวม 54 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 32 ราย และเป็นการขยายโครงการของลูกค้าที่มีอยู่เดิม 22 ราย โดยในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 44 มาจากนักลงทุนญี่ปุ่น และกว่าร้อยละ 40 มาจากกลุ่มยานยนต์ ซึ่งตัวเลขครึ่งปีสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ร้อยละ 32 ทั้งนี้ เหมราชฯ ได้มีการปรับยอดขายในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 1,800 ไร่
สำหรับในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีพื้นที่การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป จำนวน 260,356 ตารางเมตร (ตร.ม.) เพิ่มขึ้น 24,547 ตร.ม. หรือร้อยละ 10 จากยอดสะสมเมื่อสิ้นปี 2555 ในขณะที่มีพื้นที่การให้เช่าคลังสินค้า หรือเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค เพิ่มขึ้น 43,764 ตร.ม.โดยมีสัญญาเช่าล่วงหน้าทั้งจากการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าอีกจำนวน 28,284 ตร.ม. และ 8,191 ตร.ม. ตามลำดับ จากสัญญาให้เช่าในปี 2556 และในปี 2556 เหมราชฯ คาดการณ์ว่าการเช่าของพื้นที่โรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าให้เช่าจะเพิ่มขึ้น 120,000 ตร.ม. และ 1 แสน ตร.ม.ตามลำดับ
ความต้องการด้านบริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน โครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกะวัตต์ ได้เสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงตามแผนงานเป็นเวลา 7 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2556 และในขณะนี้ได้เริ่มการดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบตามปกติแล้ว นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 126 เมกะวัตต์ (SPP) โครงการแรกที่เหมราชฯ ร่วมมือกับกัลฟ์ เจพี ได้เริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา
