หุ้นร่วง 32 จุด ดัชนีหลุดระดับ 1,500 แซงหน้าตลาดในภูมิภาค ต่างชาติยังขายไม่เลิก โบรกฯ ชี้เป็นการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนประเภทสถาบัน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากมีความกังวลว่า “เฟด” อาจชะลอซื้อพันธบัตรในไม่ช้านี้ “ต่างชาติ” จัดหนักขายสุทธิอีก 4.7 พันล้าน
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (6 มิ.ย.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,490.21 จุด ลดลง 32.45 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.13% มูลค่าการซื้อขาย 68,645.95 ล้านบาท แซงหน้าตลาดในภูมิภาค หลุดระดับ 1,500 จุด โดยมีแรงขายหนักในหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป ซึ่งในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับลงไปลึกแตะที่ระดับ 1,484.88 จุด
ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,714.59 ล้านบาท พอร์ต บล.ขายสุทธิ 573.91 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,711.58 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,570.90 ล้านบาท
นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอซื้อพันธบัตรในไม่ช้านี้ หลังจากที่นักวิเคราะห์ออกมามองว่า เฟดน่าจะเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้เป็นต้นไป ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายเพื่อปรับพอร์ตการลงทุน
ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) มองว่า ตลาดยังผันผวน ซึ่งหากตลาดรีบาวนด์แล้วไม่สามารถผ่าน 1,550 จุดได้ ก็มีโอกาสปรับฐานอีกรอบ จึงแนะนำให้ลดพอร์ต โดยหากตลาดยังอยู่ในแดนลบเป้าหมายแนวรับถัดไปก็จะอยู่ที่ 1,460-1,450 จุด
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งถ้าออกมาดีก็อาจทำให้คาดกันว่า อาจจะมีการชะลอการซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น