“ส.ขอนแก่นฟู้ดส” เชื่อรายได้ปี 56 เติบโต 15% เตรียมปรับขึ้นราคาขายสินค้าอีก 3-5% จากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ตามค่าแรง 300 บาทรัฐบาล พร้อมลุยสร้างแบรนด์ใหม่ และเพิ่มร้านอาหาร ล่าสุด ตั้งงบ 300 ล้าน สร้างโรงงานคาดแล้วเสร็จปลายปี หวังใช้บุกตลาดฮาลาลในตะวันออกกลาง และยุโรป
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ หรือ SORKON กล่าวว่า บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว พร้อมเตรียมปรับขึ้นราคาขายสินค้าราว 3-5% ในช่วงไตรมาส 3 หลังอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาท/วัน ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีผลทำให้ต้นทุนวัตถุดิบ และการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับขึ้นราคาจะช่วยรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าในส่วนของสินค้าส่งออกเช่นกัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ของรายได้ทั้งหมด
“ปัจจุบันกำไรสุทธิของเรายังไม่ได้ลดลงต่ำกว่าปีก่อน แต่ถ้าหากไม่ได้ปรับขึ้นราคาสินค้า 3-5% ในไตรมาส 3 ก็อาจจะกระทบกับอัตรากำไรสุทธิได้”bsp;
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 2 แต่เชื่อว่าโดยรวมจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/56 จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเองมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการรับจ้างผลิตสินค้ารวมถึงการขยายร้านอาหารอีสาน และข้าวขาหมู เพื่อช่วยผลักดันให้ยอดขายที่เติบโตขึ้นได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ในแง่ของกำไรคาดว่าจะออกมาใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปีก่อน
ซีอีโอ SORKON กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิต โดยใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานใหม่เพื่อเพิ่มอัตราการผลิตสินค้าที่มีอยู่อีกเท่าตัว โดยเน้นผลิตภัณฑ์อาหารประเภทซีฟูด และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ตลอดจนถึงขนมขบเคี้ยวที่จะมีการขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการมากในประเทศแถบตะวันออกกลาง และทวีปยุโรป แต่ยังไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อเข้าไปจำหน่ายได้ เพราะโรงงานอยู่ในช่วงยื่นขอใบรับรองมาตรฐานฮาลาล ทั้งนี้ คาดว่าการขยายโรงงานจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 56
