รายย่อยใจเร็ว
เปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่ตลาดหุ้นยังทรุดต่อเนื่องหลุด 1,600 จุดลงไปอีก เนื่องจากปัจจัยลบจากตลาดหุ้นในกลุ่มทิพ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์รูดลง ฉุดให้ตลาดหุ้นไทยรูดตาม โดยคาดว่าต่างชาติคงจะทยอยถอนเงินกล้บจากกลุ่มทิพ ขณะที่ปัจจัยภายในก็ไม่มีข่าวดีกระตุ้น
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,593.10 จุด ลดลง 14.36 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,220 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,553 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดระยะสั้นยังไม่มีความชัดเจนเหมือนเดิม เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ และยังมีความกังวลในเรื่องการระงับมาตรการอัดฉีดเงินของสหรัฐฯ อยู่ รวมทั้งการขายของต่างชาติ ซึ่งอาจฉุดให้ดัชนีไหลลงไป โดยมีการองแนวรับไว้ที่ 1,550 จุดแล้ว เพราะแรงโน้มถ่วงยังเป็นขาลงอยู่
ส่วนนักลงทุนรายย่อยทนความเย้ายวนของราคาหุ้นไม่ไหว ทยอยกันเข้าไปช้อนซื้อหุ้น โดยหวังว่าราคาจะดีดกลับ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณการดีดตัวกลับ
รอบนี้ถือว่านักลงทุนรายย่อยแลกหมัดวัดดวงกับต่างชาติ โดยขณะนี้ต้องถือว่ารายย่อยเป็นรอง เพราะซื้อแล้วหุ้นไม่ขึ้น ซึ่งหากไม่ดีดกลับในวันนี้จะเป็นบทสรุปว่ารายย่อยรีบร้อนซื้อมากเกินไปทำให้ต้องแบกหุ้นต้นทุนสูง
อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงต่อรายย่อยคงเข้าไปรับอีก ทั้งที่ทัศนะโบรกเกอร์ส่วนใหญ่อยากให้นักลงทุนรอคอยจังหวะอย่างใจเย็นๆ มากกว่า
ไม่ว่ากลุ่มไหน หรือตัวไหนไม่น่าซื้อทั้งสิ้น เพราะมีโอกาสซื้อได้ราคาต่ำกว่า เว้นแต่หุ้นปั่นขนาดเล็กหลายตัวซึ่งถูกจุดพลุไล่ราคาเพื่อล่อแมลงเม่า
แต่การลงทุนโดยรวมกลยุทธ์คือ การรอ และรอเท่านั้น อย่างน้อยรอประเมินผลหลังคณะกรรมการนโยบายการเงินจะพิจารณาลดดอกเบี้ยวันพุธนี้
เปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่ตลาดหุ้นยังทรุดต่อเนื่องหลุด 1,600 จุดลงไปอีก เนื่องจากปัจจัยลบจากตลาดหุ้นในกลุ่มทิพ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์รูดลง ฉุดให้ตลาดหุ้นไทยรูดตาม โดยคาดว่าต่างชาติคงจะทยอยถอนเงินกล้บจากกลุ่มทิพ ขณะที่ปัจจัยภายในก็ไม่มีข่าวดีกระตุ้น
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,593.10 จุด ลดลง 14.36 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,220 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,553 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดระยะสั้นยังไม่มีความชัดเจนเหมือนเดิม เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ และยังมีความกังวลในเรื่องการระงับมาตรการอัดฉีดเงินของสหรัฐฯ อยู่ รวมทั้งการขายของต่างชาติ ซึ่งอาจฉุดให้ดัชนีไหลลงไป โดยมีการองแนวรับไว้ที่ 1,550 จุดแล้ว เพราะแรงโน้มถ่วงยังเป็นขาลงอยู่
ส่วนนักลงทุนรายย่อยทนความเย้ายวนของราคาหุ้นไม่ไหว ทยอยกันเข้าไปช้อนซื้อหุ้น โดยหวังว่าราคาจะดีดกลับ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณการดีดตัวกลับ
รอบนี้ถือว่านักลงทุนรายย่อยแลกหมัดวัดดวงกับต่างชาติ โดยขณะนี้ต้องถือว่ารายย่อยเป็นรอง เพราะซื้อแล้วหุ้นไม่ขึ้น ซึ่งหากไม่ดีดกลับในวันนี้จะเป็นบทสรุปว่ารายย่อยรีบร้อนซื้อมากเกินไปทำให้ต้องแบกหุ้นต้นทุนสูง
อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงต่อรายย่อยคงเข้าไปรับอีก ทั้งที่ทัศนะโบรกเกอร์ส่วนใหญ่อยากให้นักลงทุนรอคอยจังหวะอย่างใจเย็นๆ มากกว่า
ไม่ว่ากลุ่มไหน หรือตัวไหนไม่น่าซื้อทั้งสิ้น เพราะมีโอกาสซื้อได้ราคาต่ำกว่า เว้นแต่หุ้นปั่นขนาดเล็กหลายตัวซึ่งถูกจุดพลุไล่ราคาเพื่อล่อแมลงเม่า
แต่การลงทุนโดยรวมกลยุทธ์คือ การรอ และรอเท่านั้น อย่างน้อยรอประเมินผลหลังคณะกรรมการนโยบายการเงินจะพิจารณาลดดอกเบี้ยวันพุธนี้