“เอกรัฐวิศวกรรมฯ” โชว์ผลงานไตรมาสแรกปี 56 สวย รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 567 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 12% ตัวเลขพลิกขาดทุนเป็นกำไรในไตรมาสนี้ 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 335% มั่นใจทั้งปีเติบโตตามเป้า 10% หลังมีแรงหนุนจากงานในมือ และการเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐ และเอกชน ส่วนแผนธุรกิจผลิตแผงโซลาร์เซลล์ยังไม่เร่งลงทุน เหตุรัฐไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร
นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR ผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง โดยจะเห็นได้จากในไตรมาสแรกของปี 2556 มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผลขาดทุนสุทธิในงวดเดียวกันของปีที่แล้วที่ 11 ล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ 335% และยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถทำได้ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น25%
สาเหตุหลักที่ทำให้พลิกกลับมามีกำไรสุทธิมาจากตัวเลขรวมรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 567 ล้านบาท เทียบกับ 505 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 12% โดยสามารถทำรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มเป็น 510 ล้านบาท เทียบกับ 377 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2555
“เราคาดว่าผลประกอบการในปี 2556 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับปีนี้จะมีการซื้อเครื่องจักรใหม่ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตจะดีขึ้น” นายดนุชากล่าว
ปัจจุบัน บริษัทเอกรัฐฯ มีงานอยู่ในมือประมาณ 600 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 จะมีงานประมูลที่บริษัทเข้าร่วมประมูล ทั้งในส่วนโครงการภาครัฐบาล และเอกชน ประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท คาดว่า บริษัทฯจะได้งาน 25-30%
“ทั้งนี้ ในเรื่องของราคาขาย นโยบายในขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ค่าแรงงานจะสูงมากจากการปรับเปลี่ยนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท อีกทั้งทางบริษัทได้มีการพัฒนาการออกแบบเพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่ยังคงรักษามาตรฐานและคุณภาพสินค้าได้คงเดิม ในส่วนของตลาดต่างประเทศคาดว่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 50%” นายดนุชากล่าว
สำหรับทิศทางของธุรกิจผลิตแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) นั้น ยังไม่มีความคืบหน้าเพราะไม่มีนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าจะส่งเสริม สนับสนุน การมีงบประมาณโครงการอะไร อย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการมองตลาด และแนวทางในการดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับการลงทุนในอนาคต