“กรุงศรี คอนซูมเมอร์” เผยผลงานไตรมาสแรกเติบโตได้ตามเป้าหมาย รับมีสัญญาณผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่มาก พร้อมเดินหน้าขยายฐานต่างประเทศ จับมือกรุงศรีออโต้ และพันธมิตรในลาว เปิดบริษัทปล่อยกู้เช่าซื้อรถ-ผ่อนชำระเครื่องไฟฟ้า คาดเริ่มได้ 1 ก.ค.นี้
นายฐากร ปิยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก ปี 2556 ว่า เป็นช่วงที่มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในทุกเครื่องมือวัด โดยมีจำนวนบัญชีใหม่เพิ่มขึ้น 191,800 บัญชี หรือเพิ่มขึ้น 16% และยอดสินเชื่อใหม่เติบโต 16,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ธุรกิจค้าปลีก และการเติบโตแบบก้าวกระโดดธุรกิจออนไลน์ ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ สอดคล้องกับการเติบโตดังกล่าว
ขณะที่เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจทั้งปี ได้ตั้งเป้าจำนวนบัญชีลูกค้า 6.22 ล้านบัญชี เป็นบัญชีลูกค้าใหม่ 800,000 บัญชี มียอดใช้จ่ายรวม 2.87 แสนล้านบาท เติบโต 16% มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.1 แสนล้านบาท เติบโต 9% โดยสัดส่วนสินเชื่อของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นส่วนของบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลอย่างละ 50%
ส่วนสัญญาณเตือนการผิดนัดชำระหนี้นั้นก็เริ่มเห็นมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นบ้าง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าบางรายก็มีภาระเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากการผ่อนชำระซื้อรถคันแรก หรือค่าครองชีพที่สูงขึ้น ตลอดจนในเดือนนี้เป็นช่วงเปิดเทอม อาจจะทำให้เงินตึงตัวขึ้น โดย NPL กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในส่วนของบัตรเครดิตอยู่ 1% ต้น และสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2% ต้น ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระบบ
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนั้น จะเน้นสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตร รวมถึงโตในตลาดที่ยังเติบโตได้สูง บริหารความเสี่ยงสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ และขยายฐานธุรกิจต่างประเทศ
เปิดบริษัทร่วมทุนในลาว
ล่าสุด กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ร่วมกับกรุงศรี ออโต้ และพันธมิตรในประเทศลาว ร่วมเปิดบริษัทกรุงศรีไฟแนนซ์เชียล เซอร์วิส (ลาว) ดำเนินธุริกจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อผ่อนชำระสินค้า โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และกรุงศรี ออโต้ ถือหุ้นรายละ 35% พันธมิตรจากประเทศลาวถือ 30% และคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
“ที่เลือกลาวที่แม้จะมีประชากรไม่มากนัก แต่ก็เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรม มีภาษาที่ใกล้เคียงกัน ประชาชนที่นั่นก็รู้จักเราอยู่บ้างเพราะดูทีวีรายการของไทยเป็นประจำ และเป็นประเทศที่มีสาขาธนาคารกรุงศรี อยู่ถึง 2 แห่ง จึงน่าจะสะดวกในการเริ่มต้น ส่วนพม่า และกัมพูชา ก็อยู่ระหว่างการหาข้อมูล แต่เวียดนามคงไม่ไปเพราะดูจะค่อนข้างช้าที่จะไปเริ่มแล้ว”
