ออสสิริส ฟิวเจอร์ส มองราคาทองคำสปอตด้วยภาพของราคาทองคำที่ยังคงมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางขาลง โดยในช่วงปลายสัปดาห์ จับตาดูการแถลงการณ์ของประธานเฟด ที่อาจเริ่มเตรียมถอนมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินหรือผ่อนคลายเชิงปริมาณภายในสิ้นปีนี้
ฝ่ายวิจัย บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด (AFC Research) มองราคาทองคำสปอตด้วยภาพของราคาทองคำที่ยังคงมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางขาลงโดยรวม โดยผลการประชุมจี 7 ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ให้ภาพของการยอมรับในทิศทางของค่าเงินเยนที่อ่อนค่า อันนำไปสู่กลไกของการคานและส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่านั้นได้เป็นปัจจัยลบที่สำคัญต่อราคาทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับการที่กองทุน SPDR ได้ถือครองทองคำที่ระดับ 1,051.65 ตันนั้น หลังจากได้มีการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1 วันในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ได้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักซึ่งยังคงเป็นปัจจัยกดดันเชิงจิตวิทยาอย่างน้อยแก่นักลงทุนโดยรวมได้เป็นอย่างดี [Bloomberg, spdrgoldshares, Forexfactory]
นอกจากนี้ ถ้าเราย้อนกลับไปอีก จากประเด็นของการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในประเทศผู้นำหลายๆประเทศซึ่งได้และมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงซึ่งจะเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งได้เกิดและมีแนวโน้มในการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุนจากตลาดเงินที่อัตราผลตอบแทนค่อนข้างต่ำลงไปยังตลาดทุน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมมากขึ้น โดยมีเหตุการณ์ที่สำคัญในช่วงต้นสัปดาห์ จากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางแห่งยุโรปที่ได้กล่าวถึงแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้ประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 0.25% ไปแล้วนั้นได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการคาดการณ์ของนักลงทุนบางกลุ่มเพิ่มมากขึ้น [Bloomberg]
นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในจีน ได้แก่ ตัวเลขดุลการค้าที่ได้ประกาศ 1.82 หมื่นล้านจาก -900 ล้าน ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภครายปีที่ได้ประกาศ 2.4% จาก 2.1 นั้นได้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในช่วงที่ผ่านมาที่เสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในยุโรป เช่น ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการว่างงานในสเปนที่ได้ประกาศ -4.61 หมื่นตำแหน่งจากเดิม -5 พันตำแหน่ง ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อภาคการบริการในอิตาลี และยุโรปโดยรวมที่ 47 จาก 45.5 และ 46.6 ตามลำดับ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดค้าปลีกรายเดือนในยุโรปที่ -15.6 จาก -17.3 และ -0.1% จาก -0.2% ตามลำดับ ตัวเลขดุลการค้าในฝรั่งเศสที่ได้ประกาศ -4.7 พันล้านจาก -5.6 พันล้าน ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมรายเดือนในเยอรมันที่ 1.2% จาก 0.6% เป็นต้น [Bloomberg, Forexfactory]
สำหรับสัปดาห์นี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ จับตาดูความคืบหน้าของการประชุม Eurogroup และ ผลของ ECOFIN Meetings โดยเนื้อหาในการประชุมจะเน้นไปที่แผนงาน ความคืบหน้าในการช่วยเหลือทางการเงินในกลุ่มฯ เช่น ESM ซึ่งน่าจะสร้างความผันผวนต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม [Forexfactory]
นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญทางฝั่งจีน ได้แก่ ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกรายปี การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศรายปี รวมไปถึงดัชนีชี้นำรายเดือนนั้นล้วนจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนต่อราคาทองคำได้เป็นอย่างดี โดยถ้าตัวเลขฯโดยรวมดีขึ้น น่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ [Forexfactory]
ในช่วงกลางสัปดาห์ จับตาดูความคืบหน้าของการแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางแห่งอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน และรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อโดยเนื้อหาจะเน้นไปที่บทวิเคราะห์ที่จะช่วยในการตัดสินใจในการประกาศนโยบายอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป ซึ่งมีแนวโน้มสร้างความผันผวนต่อราคาทองคำได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน [Forexfactory]
ในช่วงปลายสัปดาห์ จับตาดูการแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ หรือเฟด ณ กรุงนิวยอร์ค โดยจากการที่มีรายงานจาก Wall Street Journal ในการคาดการณ์กันถึง การที่เฟดได้เริ่มเตรียมถอนมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินหรือผ่อนคลายเชิงปริมาณภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจจะเป็นในช่วงไตรมาส 3 ถึง 4 นั้นจะมีความชัดเจนมากขึ้นเพียงใด ซึ่งก็จะเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการกำหนดทิศทางราคาทองคำ
กล่าวโดยสรุปแล้ว AFC Research มีความเห็นว่า สัปดาห์นี้ ราคาทองคำยังมีแนวโน้มหลักที่จะเคลื่อนไหวผันผวนเชิงลบได้ตามปัจจัยเรื่องของการการประชุม Eurogroup และ ผลของ ECOFIN Meetings รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญทางฝั่งจีน และที่น่าจะต้องจับตาดูเป็นพิเศษ ก็คือ การแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ โดยในเบื้องต้น เราคาดการณ์ว่าราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงของราคา $1,389-$1,485/oz เป็นกรอบโดยรวมทั้งสัปดาห์นี้